โมหะ (2)
โดย gboy  5 ส.ค. 2555
หัวข้อหมายเลข 21515

จากบทความ

[๙๒๒] ๒. ทัสสเนนปหาตัพพเหตุกธรรม เป็นปัจจัยแก่เนวทัสสเนนนภาวนายปหาตัพ
พเหตุกธรรม ด้วยอำนาจของอุปนิสสยปัจจัยที่เป็น ปกตูปนิสสยะ ได้แก่


ราคะที่เป็นทัสสเนนปหาตัพพเหตุกธรรม ฯลฯ ความปรารถนา เป็นปัจจัยแก่ศรัทธา แก่
ปัญญา แก่สุขทางกาย แก่ทุกข์ทางกาย แก่ผลสมาบัติ และแก่โมหะ ด้วยอำนาจของอุ
ปนิสสยปัจจัย.

พอดีผมได้มีโอกาสเรียนถามพระอาจารย์ท่านหนึ่งว่าทำไมโมหะถึงเป็นเนวทัสสเนนนภาวนายปหาตัพพเหตุกธรรม ท่านกรุณาตอบว่าสาเหตุของโมหะคืออวิชชา และอวิชชาจะถูกประหารหมดด้วยอรหัตตผล ไม่ใช่อรหัตตมรรค

ผมจึงขอความเห็นจากอาจารย์และท่านผู้รู้ท่านอื่นๆ ด้วยครับ

ขอบพระคุณครับ



ความคิดเห็น 1    โดย paderm  วันที่ 8 ส.ค. 2555

ในความเป็นจริง อวิชชา หรือ โมหะ ถูกดับหมดสิ้นและรวมทั้งกิเลสอื่นๆ ไม่มีเหลือ เมื่อ

อรหัตตมรรคจิตเกิดขึ้น ครับ


ความคิดเห็น 2    โดย ไตรสรณคมน์  วันที่ 8 ส.ค. 2555

อรหัตตมรรคเกิดขึ้นประหานกิเลส จากนั้นอรหัตตผลเกิดสืบต่อเป็นจิตที่กิเลสดับหมดแล้ว

ต่างกันเพียงขณะจิตเดียวเท่านั้นค่ะ


ความคิดเห็น 3    โดย gboy  วันที่ 9 ส.ค. 2555

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

แสดงว่าเหตุของโมหะที่ไม่ได้ประหารด้วยมรรค ๔ น่าจะเป็นโสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาสะ ใช่หรือไม่ครับ ถ้าพิจารณาตามหลักปฏิจจสมุปบาท


ความคิดเห็น 4    โดย paderm  วันที่ 9 ส.ค. 2555

เรียนความเห็นที่ 3 ครับ

มรรคที่ ๔ ประหารกิเลสและอวิชชา คือ โมหะหมดสิ้น เพราะ อรหันตมรรคจิต ทำกิจประหารที่ตัวกิเลส แต่ ผลของการประหารกิเลส มีอวิชชาที่เป็นต้นของปฏิจจสมุปบาทก็ทำให้ ละ โสกะ ... อุปายาสด้วย ครับ


ความคิดเห็น 5    โดย gboy  วันที่ 10 ส.ค. 2555

เรียนอาจารย์ครับ แสดงว่าในที่สุดทั้งอวิชชาและโสกะ ... อุปายาสะก็ถูกละได้หมด ด้วยมรรคทั้ง ๔

ส่วนความหมายของศัพท์ทัสสเนนนภาวนายปหาตัพพเหตุกธรรมน่าจะหมายถึงว่าถูกละโดยตรง ดังนั้นโสกะ ... อุปายาสะ ซึ่งถูกละโดยอ้อมจึงเป็นเนวทัสสเนนนภาวนายปหาตัพพเหตุกธรรม ไม่ทราบว่าผมเข้าใจถูกต้องหรือไม่ครับ


ความคิดเห็น 6    โดย wannee.s  วันที่ 10 ส.ค. 2555

ควรที่จะมีความเข้าใจว่าอวิชชาเป็นมูลราก เป็นหัวหน้าของอกุศลธรรมทั้งหลาย เมื่อดับอวิชชาได้แล้ว กิเลสทั้งหลายก็ถูกดับไปด้วย ไม่เป็นเหตุให้เกิดความเศร้าโศกเสียใจ ไม่ทำให้เกิดในภพใหม่อีกต่อไป ทุกข์ใดๆ ก็ไม่มี ค่ะ


ความคิดเห็น 7    โดย gboy  วันที่ 12 พ.ย. 2555

พบคำตอบแล้วครับ

ในพระอภิธรรมเล่ม ๗ ปัฏฐาน ภาคที่ ๓ โมหะที่สหรรคตด้วยอุจธัทจะและวิจิกิจฉา จัดเข้าในหมวด ๓ เพราะไม่มีเหตุ ฯลฯ

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 8    โดย gboy  วันที่ 14 พ.ย. 2555

เหตุข้างต้นหมายถึงสัมปยุตตเหตุได้แก่ โลภะ โทสะ โมหะ

ในโมหมูลจิตมีเพียงโมหะ ดังนั้นจึงไม่มีสัมปยุตตเหตุตัวอื่นเป็นเหตุปัจจัย

แต่ถ้าเป็นโมหะในโลภะ และ โทสมูลจิต มีสัมปยุตตเหตุตัวอื่นเป็นเหตุปัจจัยจึงเป็นทัสสเนนน และภาวนายปหาตัพพเหตุฯ ได้