วันนั้นได้ฟังคลิปจากการสนทนาที่บ้านธัมมะลำพูนค่ะ ยังเข้าใจไม่ชัดเจน ที่ว่าจิตขณะหลับสนิทเป็นภวังคจิต แล้วจิตขณะนั้นรับรู้อารมณ์หรือไม่
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ภวังคจิต คือ จิตที่เกิดขึ้นทำกิจหน้าที่ดำรงภพชาติความเป็นบุคคลนี้ไว้ จนกว่าจะจุติ ในชีวิตประจำวัน มีจิตที่เกิดขึ้นรู้อารมณ์ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้นทางกาย และ ทางใจ สลับกับภวังคจิต
ขึ้นชื่อว่าจิตแล้ว ไม่ว่าจะเป็นจิตประเภทใด ย่อมรู้อารมณ์ทั้งนั้น ตามสมควรแก่จิตประเภทนั้นๆ เพราะจิตเป็นสภาพธรรมที่รู้แจ้งซึ่งอารมณ์ เช่น จิตเห็น ก็รู้สี จะไปรู้เสียง ก็ไม่ได้ จิตได้ยิน ก็รู้เสียง เป็นต้น แต่ถ้าเป็นภวังคจิตแล้ว ขณะนั้นโลกนี้ไม่ปรากฏ ไม่รู้ว่ามีทรัพย์สมบัติ ญาติพี่น้อง เป็นต้น ไม่เป็นกุศล ไม่เป็นอกุศล ในขณะที่ภวังคจิตเกิดขึ้น ซึ่งอารมณ์ของภวังคจิต คือ อารมณ์เดียวกันกับชวนจิตก่อนจะจุติของชาติที่แล้ว ชวนจิต ก่อนตายของชาติที่แล้วรู้อารมณ์อะไร อารมณ์นั้นแหละที่เป็นอารมณ์ของภวังคจิตในชาตินี้ เมื่อกล่าวโดยสรุปแล้ว อารมณ์ของภวังคจิต ก็คือ สี เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะและ ธัมมารมณ์ อย่างใดอย่างหนึ่งในขณะที่ชวนจิตก่อนจุติของชาติที่แล้ว รู้ นั่นเอง ครับ.
ขอเชิญคลิกศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ครับ
ภวังคจิตเป็นจิตที่มีจริงแต่รู้ได้ยาก
ภวังคจิต
... อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ ...
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณและอนุโมทนาค่ะ คงต้องไปศึกษาเพิ่มเติมคำว่า ชวนจิตก่อนจุติของชาติที่แล้วค่ะ
สาธุค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ