ทรัพย์สินก่อนบวช
โดย joychorelada  8 ก.ย. 2564
หัวข้อหมายเลข 36926

กราบเรียนถามค่ะ

ผู้ที่มีบัญชีเงินฝากหรือทรัพย์สินก่อนจะมาบวชเป็นพระ เมื่อบวชแล้ว ยังใช้เงินหรือทรัพย์สินนั้นได้หรือเปล่าคะ

ขอบพระคุณค่ะ



ความคิดเห็น 1    โดย paderm  วันที่ 8 ก.ย. 2564

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

[เล่มที่ 3] พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค-ทุติยภาค เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้าที่ 940

พระบัญญัติ

๓๗. อนึ่ง ภิกษุใด รับ ก็ดี ให้รับ ก็ดี ซึ่งทอง เงิน หรือ ยินดีทอง เงิน อันเขาเก็บไว้ให้ เป็นนิสสัคคิยปาจิตตีย์.


เมื่อบวชเป็นพระภิกษุแล้ว ย่อมต้องสละทรัพย์สินที่มีทั้งหมด และ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับเงินและทองใดๆ ก่อนบวช ก็ต้องสละ ไม่ต้องพูดถึงเมื่อบวชแล้ว ก็ไม่สามารถจะใช้เงินหรือรับเงินได้เลย ในทุกกรณี พระพุทธเจ้าตรัสว้ว่าเป็นอาบัติ มีโทษตามพระบัญญัติ ครับ

พระภิกษุในพระธรรมวินัย ไม่รับและไม่ยินดีในเงินและทอง โดยประการทั้งปวง เป็นผู้ปราศจากเงินและทองอย่างสิ้นเชิง เพราะท่านเหล่านั้น ต้องสละทรัพย์สินเงินทองก่อนบวชแล้ว ดังนั้น เมื่อบวชเป็นพระภิกษุแล้ว จึงรับเงินและทองไม่ได้ เงินทองไม่ควรแก่เพศบรรพชิตโดยประการทั้งปวง ไม่มีพระพุทธดำรัสแม้แต่คำเดียวที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตรัสให้พระภิกษุรับเงินและทองหรือไปแสวงหาเงินและทอง ตามข้อความจาก พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค เล่ม ๔ ภาค ๒ มณิจูฬกสูตร ว่า

“ทองและเงินไม่ควรแก่สมณศากยบุตร สมณศากยบุตรย่อมไม่ยินดีทองและเงิน สมณศากยบุตร ห้ามแก้วและทอง ปราศจากทองและเงิน ... เรามิได้กล่าวว่า สมณศากยบุตรพึงยินดี พึงแสวงหาทองและเงินโดยปริยายอะไรเลย”

ขออนุโมทนา


ความคิดเห็น 2    โดย khampan.a  วันที่ 8 ก.ย. 2564

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ภิกษุใดมีความเป็นอยู่ไม่ต่างกับคฤหัสถ์ ยังต้องการทรัพย์สินเงินทอง ใช้จ่ายเงินทอง ยังมีจิตใจเหมือนคฤหัสถ์ผู้อยู่ครองเรือนทุกประการ นั่นก็ไม่ใช่ความประพฤติของผู้ที่มีอัธยาศัยที่จะเป็นบรรพชิตที่แท้จริง เป็นโทษอย่างแน่นอน ถ้ารับเงิน ตลอดจนถึงการใช้จ่ายเงิน ด้วย ถ้าต้องการทรัพย์สินเงินทอง อยากมีทรัพย์สินเงินทอง อยากใช้จ่ายเงินทอง ก็ไม่ต้องบวช เพราะผู้ที่เป็นพระภิกษุ จะต้องเป็นผู้บริสุทธิ์จริงๆ จึงควรแก่การครองผ้ากาสาวพัสตร์ซึ่งเป็นเพศที่สูงยิ่ง ครับ

...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...


ความคิดเห็น 3    โดย chatchai.k  วันที่ 9 ก.ย. 2564

ขออนุโมทนาครับ