ผมได้สนทนาธรรมกับเพื่อนอยู่หลายเรื่อง แต่มีเรื่องหนึ่งที่เพื่อนถามผมว่า คนที่ถูกทำร้ายหรือถูกฆ่าตาย และมีความอาฆาตพยาบาทผู้ที่ทำร้ายหรือฆ่าเขา วิญญาณ (ความเข้าใจของเขา) นั้นจะสามารถมาทำร้ายได้หรือไม่ ผมก็อธิบายตามปัญญาของผมว่า ผู้ที่ตายไปแล้วจะต้องไปเกิดทันที คือ อาจจะเป็น สัตว์นรก เปรต อสูรกาย สัตว์เดรัจฉาน เทวดา พรหมหรืออาจจะกลับมาเกิดเป็นคนอีกก็แล้วแต่กรรม ส่วนที่จะเป็นผี (ตามความเข้าใจของเขา) มีฤทธิ์มาเพื่อแก้แค้นและทำร้ายนั้น ผมก็อธิบายไปว่า อาจจะเกิดเป็นเปรตแล้วมีความอาฆาต พยาบาทจนถึงขนาดแสดงปรากฏการณ์ต่างๆ (ปรากฏให้เห็น ได้กลิ่น ได้ยินเสียง เป็นต้น) เพื่อแก้แค้นก็อาจเป็นไปได้ แต่ถึงขนาดที่สามารถทำร้ายกันแบบในภาพยนตร์นั้น ผมบอกว่าคงเป็นไปไม่ได้ ซึ่งผมก็ไม่สามารถอธิบายให้เพื่อนได้เข้าใจหรือหายสงสัยได้ แต่ผมก็อธิบายเพิ่มเติมไปอีกว่า พระพุทธเจ้าได้ทรงตรัสสอนให้มีความเมตตา ให้อภัยต่อกัน
ฉะนั้น จึงไม่ควรผูกโกรธหรือพยาบาทใคร เพราะจะเป็นการเพิ่มบาปอกุศลเข้าไปอีก ขอให้ท่านวิทยากรช่วยกรุณาอธิบายเพิ่มเติมครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
คำว่า ผี ความเข้าใจส่วนใหญ่ ก็เข้าใจกันว่าเป็นบุคคลที่ตายแล้วและก็เป็นวิญญาณล่องลอยและปรากฎให้เห็นได้ แต่ในความเป็นจริงที่เป็นสัจจธรรมแล้ว เมื่อตายแล้ว คือจุติจิตเกิดขึ้น ปฏิสนธิจิต (การเกิด) เกิดต่อเปลี่ยนภพภูมิทันที ไม่ใช่ว่าจะต้องมีวิญญาณล่องลอยที่จะคอยหาที่เกิดเป็นผีครับ ตายแล้วจะต้องเกิดทันทีครับ แต่จะเกิดเป็นอะไรนั้นก็แล้วแต่กรรมที่จะให้ผลครับ หากเกิดเป็นสัตว์ก็คงไม่เรียกว่าผี หากเกิดเป็นมนุษย์ก็คงไม่เรียกว่าผี แต่เมื่อเกิดเป็นเทวดาซึ่งเทวดาก็สามารถปรากฏให้เห็นได้ ใช่ผีหรือเปล่า ซึ่งในพระธรรมที่พระพุทธองค์ทรงแสดง แบ่งภพภูมิเป็นหลายภพภูมิ ทั้งมนุษย์ สัตว์ดิรัจฉาน เปรต เทวดา เป็นต้น ผู้ใดก็ตามที่ไม่ใช่มนุษย์ เช่น เทวดา เปรต ก็เรียกว่าอมนุษย์ครับ
ส่วนในบางกรณีสำหรับการที่บางบุคคลพบกับบุคคลที่ตายไปแล้ว ยังมาให้เจออีก ประเด็นนี้เราควรมีความเข้าใจถูกครับว่าที่เห็นเป็นบุคคลที่ตายแล้ว ยังอยู่ให้เห็นก็เพราะสัตว์นั้นไปเกิดเป็นเปรตทันที ต้องการส่วนบุญเพราะเปรต อาหารที่เขาจะได้รับคือการอุทิศส่วนกุศลไปให้ แล้วจะทำอย่างไรให้เขารู้ได้ก็ด้วยการปรากฏให้เห็น เพื่อบุคคลอื่นจะได้ทำบุญไปให้กับเปรตนั้นครับ แต่จะต้องเข้าใจใหม่ว่าไม่ใช่เป็นวิญญาณล่องลอยที่คอยตามและแสวงหาที่เกิดแต่ตายแล้วเกิดทันทีครับ ผู้ที่เกิดเป็นเปรตต้องการส่วนบุญจึงปรากฏให้เห็น ซึ่งในพระไตรปิฎก สมัยพุทธกาลก็มีบางบุคคลเจอบุคคลที่ตายแล้ว เพื่อมาขอส่วนบุญกับบุคคลที่เจอโดยให้คนที่มีชีวิตอยู่อุทิศกุศลที่ทำไปแล้วไปให้เปรตได้รับรู้และอนุโมทนาครับ
ส่วนอมนุษย์จะทำร้ายได้ ก็ต้องมั่นคงในเรื่องของกรรมของแต่ละบุคคลเป็นสำคัญ อมนุษย์ มีจิต มีอกุศลเกิดได้ คิดพยาบาทได้ แต่ ถ้าบุคคลที่ถูกพยาบาทไม่มีกรรมที่จะถูกทำร้าย ก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้
ดังนั้น ทุกอย่างจึงย้อนมาที่เรื่องกรรมและผลของกรรม ไม่มีใครทำใคร และ ใครทำ มีแต่สภาพธรรมที่เกิดขึ้นเป็นไป คือ จิต เจตสิก รูป ซึ่งเป็นแต่เพียงธรรมไม่ใช่เรา ครับ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ความเข้าใจถูกเห็นถูกเป็นสิ่งสำคัญ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น นั้น เกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น ที่กล่าวว่า เป็นคนนั้นคนนี้ ที่ไปทำร้ายเบียดเบียนผู้อื่น ก็คือ สภาพธรรมฝ่ายที่เป็นอกุศลที่เกิดขึ้นเป็นไป เป็นการสะสมเหตุที่ไม่ดี ที่มีพื้นมาจากเพราะความเป็นผู้ที่ยังไม่สามารถดับกิเลสอะไรๆ ได้ เมื่อเหตุมีแล้ว ก็สามารถที่จะให้ผลที่ไม่ดี ตามควรแก่เหตุ ยิ่งถ้าเป็นอกุศลกรรมบถที่ครบองค์ มีฆ่าสัตว์ เป็นต้น ก็สามารถนำเกิดในอบายภูมิได้ ได้รับความทุกข์ความเดือดร้อนมากมาย สำหรับผู้ที่ถูกทำร้าย ก็ต้องเข้าใจถึงความเป็นจริงว่า ถ้าไม่เคยสร้างเหตุที่ไม่ดีมาเลย ผลที่ไม่น่าปรารถนาดังกล่าวก็จะเกิดขึ้นไม่ได้ เพราะฉะนั้น ผลที่เกิดขึ้นก็ต้องมาจากเหตุ โดยไม่มีใครทำให้เลย เมื่อเข้าใจถูกเห็นถูก ก็เกื้อกูลให้เป็นผู้ไม่ประมาทในชีวิตประจำวัน ด้วยการสะสมความดีและฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ มั่นคงในความเป็นจริง ไม่ประมาทในอกุศลแม้เพียงเล็กน้อย เพราะอกุศลที่มากๆ มีกำลัง ก็มาจากการสะสมไปทีละเล็กทีละน้อย นี่เอง ซึ่งจะประมาทไม่ได้เลยทีเดียว ครับ
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ ...
ขออนุโมทนาค่ะ
ฟังธรรมะกันมามากแล้วแต่พอต้องเผชิญหน้ากับสิ่งที่กำลังปรากฏก็ยากที่จะเข้าใจ ปัญญามันเกิดยากจริง เพราะพระธรรมที่แสดงโดยผู้ที่สะสมมาเป็นอสงไขย คุณความดีทั้งปวง จึงเกิดความเข้าใจหรือปัญญา ส่วนปุถุชนก็ต้องอบรมไปเรื่อยๆ จนกว่าปัญญาเกิด
สาธุ
กราบขอบพระคุณและอนุโมทนาอาจารย์ทั้งสองท่าน ครับ.
ในพระไตรปิฏกมีแสดงไว้ มีหญิงคนหนึ่งถูกผูกอาฆาตคนที่มาทำร้ายให้เขาแท้งลูก ตายไปเกิดเป็นแมว แล้วคนที่ทำเขาแท้งเกิดเป็นไก่ คนทีเกิดเป็นแมวก็มากินไข่ ก็ผูกอาฆาตกันอีก คนที่เป็นไก่เกิดเป็นเสือเหลือง คนที่เป็นแมวก็เกิดเป็นเนื้อก็ถูกเสือเหลืองกินลูก ก็ผูกอาฆาตกันอีก เสือเหลืองเกิดเป็นกุลธิดา ส่วนเนื้อก็เกิดเป็นนางยักษ์ ยักษ์จะมากินลูกของกุลธิดา ก็หนีไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าก็ตรัสกับทั้งคู่ว่าถ้าไม่ได้พบพระพุทธเจ้า เวรของทั้งคู่ก็จะไม่จบ ภายหลังยักษ์ได้ฟังธรรมก็บรรลุเป็นพระโสดาบัน ค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
อนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ