เมื่อเว้นสิ่งที่ควรเว้นและเสพสิ่งที่ควรเสพแล้ว อัปปนาสมาธิก็ยังไม่เกิด ก็จะต้องบำเพ็ญ "อัปปนาโกศล" ให้เต็มที่ คือ ต้องประกอบด้วยอัปปนาโกศลความรู้ความฉลาดในธรรมที่เกื้อกูลให้ฌานจิตเกิดขึ้นได้ ๑๐ ประการ คือ (วิสุทธิมรรค ปฐวีกสิณนิทเทส)
๑. โดยการทำวัตถุให้เป็นของสะอาด คือ ทั้งร่างกายและเครื่องนุ่งห่มและที่อยู่ อาศัยให้ สะอาด มิฉะนั้นแล้วจิตใจก็ไม่แจ่มใส
๒. โดยการยังความเสมอกันของอินทรีย์ ๕ คือ สัทธาและปัญญา วิริยะและสมาธิให้ เสมอกันด้วยสติ
๓. โดยฉลาดต่อนิมิต
๔. ย่อมประคองจิตโดยสมัยที่ควรประคอง
๕. ย่อมข่มจิตในสมัยที่ควรข่ม
๖. ย่อมยังจิตให้ร่าเริงในสมัยที่ควรร่าเริง
๗. ย่อมเพ่งเฉยจิตในสมัยที่ควรเพ่งเฉย
๘. โดยการเว้นบุคคลผู้ไม่ตั้งมั่น
๙. โดยเสพบุคคลผู้ตั้งมั่น
๑๐. โดยความเป็นผู้มีอัธยาศัยน้อมไปในคุณนั้นๆ
ถ้าไม่เป็นผู้ฉลาดในอัปปนาโกศล ๑๐ นี้ มหากุศลญาณสัมปยุตตจิตก็ไม่อาจเพิ่มความสงบมั่นคงขึ้นอีก จนเป็นบาทให้อัปปนาสมาธิ คือ รูปาวจรปฐมฌานจิตเกิดได้
ดาวน์โหลดหนังสือ --> ปรมัตถธรรมสังเขป
สาธุ
ขออนุโมทนาครับ