หทเย นิเธตพฺพยุตฺตกํ
(ข้อความที่ควรเก็บไว้ในหทัย)
[๖๓๒]
สิ่งที่ควรแสวงหาคือปัญญา
สำหรับผู้ที่ในชีวิตประจำวันไม่ได้แสวงหาปัญญา เพียงแต่ว่าแสวงหารูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ (สิ่งที่กระทบสัมผัสกาย) ทรัพย์สมบัติ เพราะเหตุว่า ยังไม่เห็นประโยชน์ และยังไม่เห็นคุณค่าของปัญญานั่นเอง เพราะฉะนั้น ก็ควรที่จะได้พิจารณาว่านอกจากรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ซึ่งข้อความในพระไตรปิฎกตอนหนึ่งที่ท่านผู้ฟังก็คงจะได้ยินบ่อยๆ ว่ากาม (สิ่งที่น่าใคร่) ทั้งหลาย เปรียบเสมือนของที่ยืมเขามา ท่านกล่าวว่าเหมือนกับบุคคลคนหนึ่ง ซึ่งขอยืมของของคนอื่นมามากมายแล้วก็ใส่รถ แล้วก็แล่นไปเรื่อยๆ
นี่คือชีวิตตั้งแต่เกิดจนตาย ก็เหมือนกับรถซึ่งเคลื่อนไปทุกขณะ แล้วก็สิ่งที่ได้รับในชาติหนึ่งๆ ก็เหมือนกับของที่ขอยืมเขามาทั้งหมด เพราะฉะนั้น เวลาที่รถแล่นไป พบเจ้าของทรัพย์สมบัติที่ขอยืมเขามาคนใด เจ้าของนั้นก็เอาของนั้นคืนไป เพราะฉะนั้น ก็แสดงให้เห็นว่า ในชีวิต ทุกคนไม่ได้มีแต่ได้ลาภหรือว่าสมบัติ แต่ก็ต้องมีการเสียสมบัติและเสียลาภด้วย เสื่อมลาภด้วย
เพราะฉะนั้น ถ้ามีความเข้าใจจริงๆ ว่าไม่ได้เป็นเจ้าของสิ่งหนึ่งสิ่งใดในโลกเลย ตลอดชาติ เป็นแต่เพียงสิ่งที่ขอยืมมาเท่านั้นในระหว่างที่นั่งรถแล่นไปเรื่อยๆ เมื่อพบปะเจ้าของทรัพย์ผู้ใด เขาก็เอาของนั้นคืนไปก็จะไม่เดือดร้อนใจ เพราะเหตุว่าทุกชาติเป็นอย่างนี้ เพราะฉะนั้น เมื่อเป็นอย่างนี้จริงๆ แล้ว สิ่งที่ควรจะแสวงหาก็คือปัญญาที่จะทำให้รู้ความจริงของสภาพธรรม จนกระทั่งสามารถที่จะละคลายความติด ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดความทุกข์ได้ ถ้าได้รู้ลักษณะของปัญญา ก็จะทำให้แสวงหาปัญญาด้วย ไม่ใช่เพียงแต่แสวงหารูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ และทรัพย์สมบัติเท่านั้น
กราบเท้าบูชาคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
อ่านหัวข้ออื่นๆ คลิกที่นี่ ... เก็บไว้ในหทัย
กราบอนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และยินดีในกุศลจิตค่ะ