วาจาสัจจะ ที่เป็นพระพุทธพจน์ ที่แสดงถึงความจริงนั้น เป็นหนึ่งไม่เป็นสอง คือ
เป็นจริงอย่างไร ก็เป็นจริงอย่างนั้น จะเปลี่ยนความจริงให้เป็นไม่จริงไม่ได้เลย แสดง
ถึงความเป็นปรมัตถสัจจะ ชีวิตจริง ก็คือ สิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏในชีวิตประจำวัน
มีเห็น ได้ยิน มีคิดนึก มีโกรธ มีความติดข้อง มีความไม่รู้ มีสิ่งที่เป็นจริงแต่ละหนึ่ง
เกิดขึ้นแล้วดับไป แต่ละหนึ่งเป็นจริงอย่างไรก็เป็นจริงอย่างนั้น หากไม่มีการฟังพระ
ธรรมที่เป็นวาจาสัจจะ ก็ไม่มีหนทางอื่นที่จะให้เกิดความเห็นถูกเข้าใจถูกในสิ่งที่มีจริง
ที่กำลังปรากฏ สัจจาธิฐาน...ฟังเพื่อเข้าใจความจริง มั่นคงที่จะเข้าใจถูกในสิ่งที่
กำลังปรากฏ เห็นเมื่อวานนี้ เห็นขณะนี้ เกิดแล้วดับแล้ว จะไปรู้สิ่งที่ดับไปแล้วย่อม
เป็นไปไม่ได้ พระอภิธรรมทั้งหมดกล่าวถึงขณะนี้ จะให้เป็นอย่างอื่นได้ไหมเพราะ
ว่าขณะนี้กำลังปรากฏสามารถรู้ได้ สิ่งที่ผ่านไปแล้วหรือสิ่งที่ยังไม่เกิดจะรู้ได้อย่างไร
เห็น เป็นธรรมอย่างหนึ่ง สิ่งที่ปรากฏให้เห็นได้ก็เป็นธรรมอีกอย่างหนึ่ง โทสะก็
เป็นโทสะ เมตตาก็เป็นเมตตา นี่คือสัจจะ ความจริง เป็นปรมัตถสัจจะ ไม่เป็นสอง
หนทางที่จะเข้าใจความจริง ก็ต้องเป็นหนทางแห่งการอบรมเจริญปัญญา ซึ่งจะขาด
การฟังพระธรรมเป็นปกติในชีวิตประจำวันไม่ได้เลย
ฟังพระธรรมเพื่อความเข้าใจสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏ แต่ละลักษณะ จะเปลี่ยน
เห็นเป็นได้ยินก็ไม่ได้ จะได้ยินแข็งก็ไม่ได้ ลักษณะของธรรมแต่ละอย่างเป็นหนึ่งไม่
เป็นสอง
... กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ อย่างยิ่งค่ะ...
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของพี่เมตตา ด้วยนะครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของพี่เมตตา ด้วยนะครับ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ