คืออยากทราบว่าการไหว้พระบรมธาตุของพระพุทธองค์ที่เป็นของจริง จริงๆ ที่ได้รับการยืนยันนอกจากได้ความสุขใจ จากการที่ตัวเองเป็นผู้นับถือพระพุทธองค์และรู้ว่าพระพุทธองค์มีบุญคุณอย่างไรแล้ว ยังเกิดบุญกุศลอื่นอีกไหมคะ เหมือนว่าในพระไตรปิฎกจะมีเขียน แต่นั่นต้องไม่ใช่การตรัสของพระพุทธเจ้าใช่ไหมคะเพราะการไปกราบไหว้พระบรมธาตุของพระพุทธเจ้าต้องเกิดหลังจากที่ท่านดับขันธ์ปรินิพพานแล้ว อย่างนี้เป็นจริงไหมคะ แล้วมีอานิสงส์อย่างไรบ้าง ขอบคุณค่ะ
ขอโทษค่ะต้องใช้คำว่าพระบรมสารีริกธาตุ ขออภัยด้วยนะคะ บางทียังใช้คำไม่เหมาะสมเท่าไหร่
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
[เล่มที่ 72] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๙ ภาค ๑ - หน้าที่ ๑๓๑
ธาตุปูชกเถราปทาน
ว่าด้วยผลแห่งการบูชาพระธาตุ
[๗๖] เมื่อพระโลกนาถผู้นำโลก พระนามว่าสิทธัตถะ ปรินิพพาน เราได้นำ พวกญาติของเรามาทำการบูชาพระธาตุ ในกัปที่ ๙๔ แต่กัปนี้ เราได้บูชาพระธาตุใด ด้วยการบูชานั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการบูชาพระธาตุ เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว .... คำสอนของพระพุทธเจ้า เราได้ทำเสร็จแล้วดังนี้ ทราบว่า ท่านพระธาตุปูชกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล.
จบธาตุปูชกเถราปทาน
[เล่มที่ 48] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ เล่ม ๒ ภาค ๑- หน้าที่ 620
ข้อความจาก
อเนกวัณณวิมาน
... เมื่อพระสุเมธชินพุทธเจ้าผู้ศาสดาผู้ข้ามโอฆะได้แล้ว เป็นผู้คงที่ เสด็จปรินิพพานแล้ว ข้าพเจ้านั้นได้ไหว้รัตนเจดีย์ที่คลุมด้วยข่ายทอง ทำใจให้เลื่อมใสในพระสถูป ข้าพเจ้ามิได้ให้ทานเพราะไม่มีวัตถุทานที่จะให้ แต่ข้าพเจ้าได้ชักชวนคนอื่นๆ ให้ให้ทานนั้นว่า ท่านทั้งหลายจงบูชาพระธาตุของพระพุทธเจ้าผู้ควรบูชานั้นเถิด ได้ยินว่า ท่านทั้งหลาย ละอัตภาพนี้แล้ว จักไปสวรรค์ด้วยอาการอย่างนี้ ข้าพเจ้าได้ทำกุศลกรรมอย่างนั้นแล จึงได้เสวยสุขอันเป็นทิพย์ด้วยตน และบันเทิงอยู่ในท่ามกลางหมู่เทพชั้นไตรทศ ทั้งข้าพเจ้าก็ยังไม่สิ้นบุญนั้น
ธรรม เป็นจริงอย่างไร ก็เป็นจริงอย่างนั้น ความดี มีจริง ผลของความดีมีจริง ขณะที่บูชา ย่อมเป็นกุศลจิตที่เกิดขึ้นเป็นไป เมื่อเหตุที่ดีมีแล้ว สะสมไว้แล้ว ย่อมเป็นเหตุให้เกิดผลที่ดีในภายหน้าได้ เป็นธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น
สำหรับผู้ที่ได้ศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญาเห็นคุณประโยชน์ของกุศลธรรมซึ่งเป็นสภาพธรรมที่ดีงาม นั้น ย่อมไม่ละเลยโอกาสของการเจริญกุศล เพราะเหตุว่าถ้ากุศลจิตไม่เกิด ก็จะเป็นโอกาสของอกุศลที่จะเกิดขึ้นทำกิจหน้าที่ จะบูชาด้วยอามิส หรือ บูชาด้วยการปฏิบัติธรรม (ธรรมบูชา) ย่อมเป็นสิ่งที่ดีทั้งนั้น แต่การบูชาอย่างสูงสุด ก็จะต้องเป็นการบูชาด้วยการปฏิบัติธรรม ซึ่งก็คือน้อมประพฤติตามพระธรรมคำสอนที่จะอบรมเจริญปัญญา ที่จะรู้แจ้งอริยสัจธรรมถึงความเป็นพระอริยบุคคลขั้นต่างๆ สูงสุดคือ ถึงความเป็นพระอรหันต์ ดับกิเลสทั้งปวงได้อย่างเด็ดขาด
ดังนั้น ในฐานะที่เป็นพุทธศาสนิกชน การที่จะทำให้ปฏิบัติบูชาสมบูรณ์นั้น จึงไม่มีทางอื่น นอกจากการ ฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงแล้วน้อมประพฤติปฏิบัติเพื่อขัดเกลากิเลสของตนเอง ครับ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ความจริงและทรงแสดงความจริงให้ผู้อื่นได้รู้ตาม พระธรรมที่พระองค์ทรงแสดงทั้งหมด ตลอด ๔๕ พรรษา เป็นไปเพื่อปัญญา ความเข้าใจถูกเห็นถูกโดยตลอด ซึ่งถ้าไม่ได้ฟังพระธรรม ไม่มีทางที่จะเข้าใจ ต้องอาศัยการฟังพระธรรมด้วยความละเอียดรอบคอบจริงๆ ความเข้าใจถูกเห็นถูก จึงเกิดขึ้นได้
ขณะนี้ แม้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะเสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว แต่พระธรรมเป็นศาสดาแทนพระองค์ พระธรรมยังดำรงและสืบต่อมาจนถึงปัจจุบันนี้ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ที่สะสมเหตุที่ดีมา ที่จะได้ฟังได้ศึกษาอบรมเจริญปัญญา ต่อไป
ขณะนี้ แต่ละคน ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ได้เกิดในถิ่นที่ยังมีพระธรรมคำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้า ดำรงอยู่ ก็ควรที่จะได้ศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรม อบรมเจริญปัญญา เพื่อรู้สภาพธรรม คือ นามธรรมและรูปธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง เวลาของแต่ละบุคคล เหลือน้อยเต็มทีแล้ว จึงไม่ควรที่จะล่วงเลยขณะอันมีค่าและหาได้ยาก อย่างนี้ ครับ
...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
กราบอนุโมทนาค่ะ
เป็นหัวข้อที่น่าสนใจ การศึกษาพระธรรม ต้องเป็นผู้ละเอียด
ขออนุโมทนาครับ
กราบ อนุโมทนา สาธุค่ะขออนุโมทนาค่ะ
กราบ อนุโมทนา สาธุค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
กราบอนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
กราบอนุโมทนาค่ะ