อย่างทราบว่า การเที่ยวโสเภณี ตามอาบอบนวด นั้น เป็นการผิดศีลข้อ 3 หรือไม่
เพราะมีการถกเถียง กัน อยู่
ถ้า ไม่ผิดศีล จะถือว่า ผิดธรรมหรือไม่ครับ
ศีลยังประโยชน์ให้สำเร็จตราบเท่าชรา ไม่มีกลิ่นใดๆ ในโลกนี้จะหอมเท่ากลิ่นศีล
และศีลของผู้ประพฤติธรรมหอมฟุ้งทวนลมไปถึงพรหมโลก การรักษาศีลจึงสำคัญค่ะ
โอกาสเสี่ยงผิดศีลมีมากนะคะ
แม้จะเป็นอาบอบนวดขนาดใหญ่ มีชื่อดัง ก็ไม่แน่เสมอไปว่า
จะไม่มีผู้หญิงที่ถูกบังคับให้มาค้าประเวณีและต้องให้บริการอยู่ในที่เช่นนั้น
เรียนท่านอาจารย์ประจำมูลนิธิทุกท่าน
เพื่อความครอบคลุมแห่งกระทู้ศีลข้อที่ 3 จึงอยากสนทนาเพิ่มเติมให้มีความบริบูรณ์
อันยังประโยชน์ให้ญาติธรรมและผู้สนใจศึกษาได้พิจารณาต่อครับ ดังนี้
1. ศีลข้อที่ 3 มีความชัดเจนแน่นอนในการห้ามก้าวล่วง หญิงหรือชายต้องห้าม แต่ใน
สังคมปัจจุบัน มีผู้ที่ได้รับอกุศลวิบากให้มีความชอบที่แตกต่างกันไป จึงอยากเรียนถาม
ว่าถ้าเป็นการอยู่ร่วมกันระหว่าง หญิง-หญิง หรือ ชาย-ชาย จะผิดศีลข้อ 3 ด้วยหรือไม่
เพราะสังคมยังไม่ได้ยอมรับมากเท่าที่ควร เช่น การที่จะไปขอแต่งงาน ซึ่งดูจะเป็นไป
ได้ยากมากในพ่อแม่บางฝ่าย เพราะบางครั้งก็ไม่ได้เปิดเผยให้คนอื่นรับรู้ ดังนั้น ถ้าผิด
เขาพึงปฏิบัติเช่นไรในการอยู่ร่วมกันอย่างผาสุขและถูกต้องครับ
2. หากหญิงชายที่ได้อยู่ร่วมกัน โดยไม่ได้บอกพ่อแม่ หรือผู้ปกครองก่อน ซึ่งแน่นอนว่า
เป็นการก้าวล่วงศีลข้อ 3 แต่ถ้าภายหลัง ได้บอกกล่าว และขออนุญาตจากพ่อแม่แล้ว
การที่อยู่ร่วมกันหลังจากนั้น ก็ไม่ถือว่าเป็นการก้าวล่วงศีลข้อที่ 3 ใช่หรือไม่ครับ
ขอกราบขอบพระคุณล่วงหน้าทุกคำตอบครับ อนุโมทนาครับ
เมื่อไม่ผิดศีลก็น่าจะไม่ผิดธรรม เขาทำกันเป็นธุระกิจ ให้เช่าเป็นภรรยาชั่วคราว
มีใบเสร็จให้ด้วย ลูกค้าคงไม่อยากรู้ว่าพนักงานได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองหรือ
ไม่ แต่มีเจตนาไปเที่ยวแบบธุระกิจนะ ที่ไม่ดีเพราะเป็นการสั่งสมราคะตลอดเวลาที่
เที่ยว ครับ
เรียน คุณชุณห์ ความคิดเห็นที่ 5
การที่เขาทำเป็นธุรกิจให้ผู้ชายบางคนไปเที่ยว แถมให้ใบเสร็จหลังจ่ายเงินด้วย
ก็ไม่ได้แปลว่า เป็นสิ่งที่ถูกต้องทั้งหมด จริงอยู่.....ลูกค้าคงไม่อยากรู้ว่าพนักงานได้รับ
ความยินยอมจากผู้ปกครองหรือไม่ แต่มีเจตนาไปเที่ยวแบบธุระกิจนะ ก็เพราะเขารู้ว่า
ลูกค้าไม่ช่างคิด นี่แหละค่ะ จึงได้มีการค้ามนุษย์เกิดขึ้น เพราะพ่อแม่ที่ช่างคิด และคิด
เป็น เขาก็ไม่ยินยอมขายลูกกินแบบที่เรามักได้ยินข่าวกันเมื่อหลายสิบปีก่อน นักค้าจึง
ต้องหาวิธีหลอกล่อลูกสาวชาวบ้าน ด้วยการอ้างว่า จะให้ไปทำงานบ้าน กวาดถู ซักรีด
บ้างก็ว่า จะพาไปทำงานโรงงานเย็บผ้า เย็บรองเท้า แต่กลับได้ไปลงเอยในเรือค้ากาม
กลางทะเลหลวง ที่ตำรวจชาติไหนก็ตามจับไม่ได้ คนเที่ยวก็รู้ว่าหญิงโดนล่อลวงมา
แต่ก็ทำไปได้ ถึงจะเป็นแหล่งค้าประเวณีชื่อดังในย่านจำกัดเขตก็เถอะค่ะ รู้ได้ไงคะว่า
จะไม่ผิดศีล ในโลกนี้คงมีพ่อแม่จำนวนมากที่ลูกสาวหายสาบสูญและยังตามตัวกันไม่
เจอ เพราะไม่รู้ว่าลูกโดนลักพาตัวไปขายที่ส่วนไหนของโลกบ้างและยังมีชีวิตอยู่ไหม
หากคุณชุณห์จะนับใบเสร็จเป็น 1 ในสิ่งรับประกันความปลอดภัย ว่าไม่ผิดศีลผิด
ธรรม เจตนาแค่ไปเที่ยวแบบธุรกิจธรรมดาๆ ก็สามารถส่งเสริมการทำร้ายสตรีเพศได้
เพราะ ความเป็นคนไม่ช่างคิด ของลูกค้าผู้ชอบซื้อบริการทางเพศจำพวกนี้นี่เอง หรือ
คุณชุณห์อาจคิดไปในทำนองว่า เจตนาไม่ได้คิดทำร้ายใคร คิดว่าแค่เที่ยว ก็แล้วแต่ค่ะ
แต่สำหรับคุณ POPO ที่ถาม หากยับยั้งชั่งใจได้ และรอบคอบขนาดขอถามก่อนเที่ยว
ว่า ผิดศีล หรือไม่ คงไม่ใช่ ลูกค้าผู้ไม่รอบคอบเช่นนั้น และเห็น ศีล สำคัญกว่า
ความกำหนัดในเมถุนธรรม ที่เกิดขึ้นและเดี๋ยวก็หายไป เป็นปกติในชีวิตประจำวัน ใช่
มั้ยคะ
เรียนความเห็นที่ ๔
๑. ชายกับชาย หญิงกับหญิง ไม่ผิดศีลข้อ ๓ แต่สมควรหรือไม่..
๒. ถ้าผู้ปกครองยินยอมแล้ว ก็ไม่ผิดครับ
เรียน คุณอิน ขอบคุณในความคิดเห็น เข้าใจดีขึ้นแล้วครับ ผมน่ะเลิกเที่ยว
ไปนานแล้ว ครับ
ขออนุญาตสนทนาด้วยคนครับ สำหรับประเด็นศีลข้อ ๓ ท่านอาจารย์
prachern.s ได้ตอบไว้ชัดเจนแล้ว ส่วนประเด็นการค้าประเวณีนั้น ผมมีความเห็นว่า
การเป็นผู้ขายบริการ ก็ด้วย กรรม กิเลส และวิบาก ทำให้เป็นไป การเป็นผู้ซื้อ
บริการ ก็ด้วยกรรม กิเลส และวิบาก ทำให้เป็นไป แม้ปุถุชนผู้ที่ศึกษาและไม่ศึกษา
พระธรรม ก็ไม่พ้นไปจาก กรรม กิเลส และวิบาก ทำให้เป็นไป จึงควรอย่างยิ่งที่จะ
ศึกษาการเป็นไปของชีวิตในขณะนี้ครับ เพราะไม่แน่ว่า กรรม กิเลส และวิบาก จะทำ
ให้เรา เป็นไปอย่างไรต่อไป....
ขออนุโมทนาค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ