พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงรู้แจ้งโลก ๖ โลก คือ โลกทางตา โลกทางหู โลกทางจมูก โลกทางลิ้น โลกทางกาย และโลกทางใจ ทรงรู้โลกทั้ง ๖ โลกตามความเป็นจริง ซึ่งเป็นโลกที่พระอริยเจ้ารู้กัน สำหรับปุถุชนไม่รู้ไม่เข้าใจโลกในพระ-อริยเจ้ารู้ ก็ติดข้องอยู่ เพราะฉะนั้นไม่ใช่ไปรู้โลกอื่นซึ่งไม่ใช่โลกทางตา โลกทางหู ... และโลกทางใจตามความเป็นจริง หรือไปรู้เรื่องราวต่างๆ สัตว์ บุคคล สิ่งของต่างๆ ซึ่งไม่ใช่สภาพธรรมที่มีจริงๆ แล้วก็ติดข้องอยู่กับความไม่มีสาระว่ามีสาระ
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสพระคาถานี้ว่า :- "ท่านทั้งหลายจงมาดูโลกนี้ อันตระการ ดุจราชรถ ที่พวกคนเขลาหมกอยู่ (แต่) พวกผู้รู้หา ข้องอยู่ไม่"
ขอเชิญคลิกอ่านได้ที่ ...
เรื่องอภัยราชกุมาร [คาถาธรรมบท]
ท่านอาจารย์กล่าวว่า ... ขณะที่คิดว่าเป็นโลก เป็นสัตว์ บุคคล วัตถุสิ่งของต่างๆ นั้นเป็นชั่วขณะที่จิตคิดนึกเรื่องสิ่งที่ปรากฏให้เห็น แต่ขณะที่กำลังเห็นเป็นอีกขณะหนึ่ง ไม่ใช่ขณะที่กำลังคิดนึกเรื่องสิ่งที่ปรากฏ แต่ละคนก็มีจิตเกิดขึ้นเพียงชั่วขณะเดียวๆ สืบต่อกันไปทีละขณะจนปรากฏเหมือนกับว่าเป็นโลกที่กว้างใหญ่ มีผู้คนและสิ่งต่างๆ มากมาย แต่จะเข้าใจโลกจริงๆ นั้น ต้องรู้ว่าสภาพธรรมปรากฏเพียงแต่ละขณะจิตเท่านั้น ...
ขออนุโมทนาค่ะ ...
จะเข้าใจโลกจริงๆ นั้น ต้องรู้ว่าสภาพธรรมปรากฏเพียงแต่ละขณะจิตเท่านั้น...
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ
จนกว่าจะเห็นว่า "ธรรมเป็นธรรม"
สาธุค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาครับ