นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺส
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺส
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺสพุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิสงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ•••..... ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย .....•••
... สนทนาธรรมที่ ...
มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา (มศพ.)
พระสูตร ที่จะนำมาสนทนาที่มูลนิธิฯ
วันเสาร์ที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๕๗ เวลา ๐๙.๐๐ - ๑๒.๐๐ น. คือ
ปฐมกูฏสูตร
(ว่าด้วยธรรมที่เกิดจากการรักษาและไม่รักษาจิต)
...จาก...
[เล่มที่ 34] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๓- หน้าที่ ๕๑๗
...นำสนทนาโดย...
ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ และคณะวิทยากร
[เล่มที่ 34] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๓- หน้าที่ ๕๑๗
๗. ปฐมกูฏสูตร
(ว่าด้วยธรรมที่เกิดจากการรักษาและไม่รักษาจิต)
[๕๔๙] ครั้งนั้น อนาถบิณฑิกคฤหบดีเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระ-
ภาคเจ้า ฯลฯ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสพระธรรมเทศนาว่า
ดูกร คฤหบดี เมื่อจิตอันบุคคลไม่รักษาแล้ว กายกรรม วจีกรรม
มโนกรรม ก็เป็นอันไม่ได้รักษาด้วย เมื่อกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม
ไม่ได้รักษาแล้ว กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ก็เปียก (ด้วยน้ำ คือ
กิเลสโทษ) เมื่อกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม เปียกแล้ว กายกรรม
วจีกรรม มโนกรรมก็เสีย บุคคลผู้มีกายกรรม วจีกรรม มโนกรรมเสีย
การตายย่อมไม่เป็นการตายดี
เปรียบเหมือนเรือนยอด เมื่อมุงไม่ดี ทั้งยอด ทั้งกลอน ทั้งฝา
เป็นอันไม่ได้รักษา ก็เปียก ก็ผุ ฉันใด เมื่อจิตอันบุคคลไม่รักษา
แล้ว ฯลฯ การตายย่อมไม่เป็นการตายดี ฉันนั้น
ดูกร คฤหบดี เมื่อจิตอันบุคคลรักษาแล้ว กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม
ก็เป็นอันได้รักษาด้วย เมื่อกายกรรม วจีกรรม มโนกรรมได้รักษาแล้ว
กายกรรม วจีกรรม มโนกรรมก็ไม่เปียก เมื่อกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม
ไม่เปียกแล้ว กายกรรม วจีกรรม มโนกรรมก็ไม่เสีย บุคคลผู้มีกายกรรม
วจีกรรม มโนกรรมไม่เสีย การตาย ย่อมเป็นการตายดี
เปรียบเหมือนเรือนยอด เมื่อมุงดีแล้ว ทั้งยอด ทั้งกลอน ทั้งฝา
เป็นอันได้รักษา ก็ไม่เปียก ไม่ผุ ฉันใด เมื่อจิตอันบุคคลรักษาแล้ว ฯลฯ
การตายย่อมเป็นการตายดี ฉันนั้น.
จบปฐมกูฏสูตรที่ ๗
อรรถกถาปฐมสูตร
พึงทราบวินิจฉัยในปฐมกูฏสูตรที่ ๗ ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า อวสฺสุตํ โหติ แปลว่า ย่อมเปียก. บทว่า น ภทฺทกํ
มรณํ โหติ ความว่า การตายดี เธอก็ไม่ได้ เพราะกรรมทั้ง ๓ เป็นปัจจัย
แห่งปฏิสนธิในอบาย. บทว่า กาลกิริยา เป็นไวพจน์ของบทว่า มรณํ นั่นเอง.
พึงทราบวินิจฉัย ในธรรมฝ่ายสุกปักษ์ (ธรรมฝ่ายขาว) ดังต่อไปนี้ การตายดี
เป็นอันเธอได้แล้ว เพราะกรรมทั้ง ๓ เป็นปัจจัยแห่งปฏิสนธิในสวรรค์ แต่
การตายนั้น ใช้ได้สำหรับพระอริยสาวกทั้งหลาย ๓ จำพวก มีพระโสดาบัน
เป็นต้น โดยส่วนเดียวเท่านั้น. บทที่เหลือ ในพระสูตรนี้ง่ายทั้งนั้นแล.
จบอรรถกถาปฐมกูฏสูตรที่ ๗
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ข้อความโดยสรุป
ปฐมกูฏสูตร
(ว่าด้วยธรรมที่เกิดจากการรักษาและไม่รักษาจิต)
พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงแสดงธรรมแก่อนาถบิณฑิกคฤบดี ว่า
เมื่อไม่ได้รักษาจิต กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ก็เป็นอันไม่ได้รักษา
เมื่อไม่ได้รักษา กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ย่อมเปียกด้วยน้ำคือกิเลส
และย่อมเสียหาย การตายก็ไม่เป็นการตายที่ดี เปรียบเหมือนเรือนยอด
เมื่อมุงไม่ดี ทั้งยอด ทั้งกลอน ทั้งฝา เป็นอันไม่ได้รักษา ก็เปียก ก็ผุ
ในทางตรงกันข้าม เมื่อได้รักษาจิต กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ก็เป็นอัน
ได้รักษา เมื่อได้รักษา กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ย่อมไม่เปียกด้วยน้ำคือกิเลส
และย่อมไม่เสียหาย การตาย ก็เป็นการตายที่ดี เปรียบเหมือนเรือนยอด เมื่อมุงดี
ทั้งยอด ทั้งกลอน ทั้งฝา เป็นอันได้รักษา ก็ไม่เปียก ก็ไม่ผุ
ขอเชิญคลิกอ่านข้อความเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ
รักษาจิต
ชำระจิต
ฟังธรรมเพื่อรักษาจิต
ความเข้าใจพระธรรมเป็นสาระสำคัญที่สุดในชีวิต
สมมติมรณะ
... ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่าน ...
ขอขอบพระคุณและอนุโมทนาค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงแสดงพระธรรมเทศนาไพเราะในเบื้องต้น ท่านกลาง และที่สุด เพราะพระธรรมที่ทรงแสดงมีสาระ ความจริง และเพ่ือประโยชน์ต่อผู้ฟังโดยตรง มิได้หวังผลอย่างใดต่อผู้ฟัง จึงไพเราะมาก กราบอนุโมทนาสาธุยิ่งค่ะ
ขออนุโมทนา
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
รักษาจิตเป็นอันรักษาทั้งกายวาจาใจ ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่าน
ขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ