[เล่มที่ 34] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้า 512
ตติยปัณณาสก์
สัมโพธิวรรคที่ ๑
๒. มนุสสสูตร
ว่าด้วยเหตุให้ปฏิญาณว่าเป็นผู้ตรัสรู้
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 34]
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้า 512
๒. มนุสสสูตร
ว่าด้วยเหตุให้ปฏิญาณว่าเป็นผู้ตรัสรู้
[๕๔๔] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราได้ตรวจค้นอัสสาทะของโลกแล้ว อันใดเป็นอัสสาทะในโลก เราได้ประสบอันนั้นแล้ว อัสสาทะในโลกมีเท่าใด อัสสาทะนั้นเราได้เห็นอย่างดีด้วยปัญญาแล้ว เราได้ตรวจค้นอาทีนพของโลกแล้ว อันใดเป็นอาทีนพในโลก เราได้ประสบอันนั้นแล้ว อาทีนพในโลกมีเท่าใด อาทีนพนั้นเราได้เห็นอย่างดีด้วยปัญญาแล้ว เราได้ตรวจค้นนิสสรณะของโลกแล้ว อันใดเป็นนิสสรณะในโลก เราได้ประสบอันนั้นแล้ว นิสสรณะในโลกมีอย่างไร นิสสรณะนั้นเราได้เห็นอย่างดีด้วยปัญญาแล้ว
ภิกษุทั้งหลาย เรายังมิได้รู้แจ้งชัดซึ่งอัสสาทะ อาทีนพ และนิสสรณะของโลกอย่างถูกต้องแท้จริงตราบใด ฯลฯ(๑) บัดนี้ ภพใหม่ไม่มี.
จบมนุสสสูตรที่ ๒
(๑) ดูปุพพสูตรที่ ๑ ประกอบ
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้า 513
อรรถกถามนุสสสูตร
พึงทราบวินิจฉัยในมนุสสสูตรที่ ๒ ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า อสฺสาทปริเยสนํ อจรึ ความว่า ได้ท่องเที่ยวไป เพื่อประโยชน์แก่การแสวงหาอัสสาทะ. ถามว่า ได้ท่องเที่ยวไป จำเดิมแต่ไหน? ตอบว่า ได้ท่องเที่ยวไป ตั้งแต่เป็นสุเมธดาบส (๑). บทว่า ปญฺาย ได้แก่ มรรคปัญญา พร้อมด้วยวิปัสสนา. บทว่า สุทิฏฺโฐ ได้แก่ แทงตลอดแล้วด้วยดี. พึงทราบความในทุกๆ บท โดยอุบายนี้.
จบอรรถกถามนุสสสูตรที่ ๒
(๑) ปาฐะว่า ปฏฺาย ฉบับพม่าเป็น ปฏฺายาติ