ถ้าไม่ใช่เป็นผู้ที่มีปกติอบรมเจริญสติปัฏฐาน จะไม่เข้าใจความหมายของคำว่า กิจใดที่ท่านควรทำ ก็จงทำกิจนั้นเสีย ขณะนี้ที่พึ่งอันแท้จริงไม่ใช่กุศลขั้นทาน ไม่ใช่กุศลขั้นศีล ไม่ใช่กุศลขั้นความสงบ แต่เป็นสติปัฏฐานที่ระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏเท่านั้น ที่เป็น กิจใดที่ท่านควรทำ ก็จงทำกิจนั้นเสีย
อสรพิษ ๔ จำพวก ได้แก่ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุไฟ ธาตุลม ที่ท่านยึดถือว่า เป็นร่างกายของท่านตั้งแต่ศีรษะตลอดเท้า วันนี้อสรพิษ ๔ จำพวกนี่ยังไม่โกรธ ก็ยังไม่ขบกัดให้เดือดร้อน เป็นทุกข์ ยังอยู่ดี เพราะท่านรักอสรพิษทั้ง ๔ ตัวนี้ ปลุกให้ลุกตามเวลา ให้อาบน้ำตามเวลา ให้กินอาหารตามเวลา ให้เข้าสู่ที่อยู่ คือ นอนพักผ่อนตามเวลา
แต่ให้เห็นภัย ให้เห็นโทษของธาตุดิน น้ำ ไฟ ลม เวลาที่เกิดเจ็บป่วยขึ้น เกิดจากอะไร ถ้าไม่ใช่เกิดจากร่างกายซึ่งประกอบด้วยธาตุดิน น้ำ ไฟ ลม ซึ่งถ้าไม่เจ็บปวด ยังไม่ป่วยไข้ ก็ยังไม่เห็นโทษ
ที่มา อ่าน และฟังเพิ่มเติม
อาสีวิสสูตร อสรพิษ ๔ จำพวก
ขอถวายความนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้นด้วยเศียรเกล้า
... ยึดถือว่าเป็นเรามานานแสนนาน กว่าการที่จะรู้ว่าไม่ใช่เรา ค่อยๆ เข้าใจ ค่อยๆ ฟัง จนกว่าสภาพธรรมจะปรากฏอย่างที่ได้ฟังนี่แหละ คือเห็นเกิดขึ้น และดับไป ได้ยินเกิดขึ้น และดับไป แข็งเกิดขึ้น และดับไป ทุกอย่างที่มี เมื่อเกิดขึ้นปรากฏนิดเดียวแล้วก็ดับไป แล้วก็ไม่กลับมาอีกเลย ...
คลิ๊กฟังเสียงที่แสดงความจริงจาก
หลงรักสิ่งที่ไม่มี
ศึกษาพระธรรม จึงรู้ว่า ยังเป็นปุถุชนเต็มขั้น จึงเห็นผิด ยึดถืออสรพิษทั้ง ๔ ด้วยความรักที่สุด ทั้งวัน ทุกวัน เพราะไม่รู้ความจริง หนทางเดียวที่จะคลายรัก ต้องคลายความไม่รู้ จนสามารถดับความเห็นผิดก่อน ด้วยการฟังคำที่แสดงความจริง ของแข็ง อ่อน เย็นร้อน ตึงไหว ที่ปรากฏกับสภาพรู้ที่มีจริงๆ ทุกวัน เพื่อเข้าใจความจริง แม้ยากแสนยาก ก็ต้องฟัง ไตร่ตรอง พิจารณา ด้วยความเคารพ และอดทนค่ะ
กราบเท้าบูชาพระคุณท่านอาจารย์ สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง
อนุโมทนายินดีในกุศลการเผยแพร่ความจริงที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง จากบ้านธัมมะ ด้วยค่ะ
ยินดีในกุศลจิตครับ
ยินดีในกุศลจิตค่ะ
กราบขอบพระคุณและยินดียิ่งในกุศลทุกประการค่ะ