เรียน อาจารย์ทั้งสองท่าน
ทุกขอริยสัจจะ คือ ความเร่าร้อน ขอความกรุณาอาจารย์ช่วยอธิบายความด้วยครับ
ขออนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ทุกขอริยสัจจะ คือ ความเร่าร้อน ทุกข์คือสภาพธรรมที่มีจริงที่เป็น จิต เจตสิกและรูป ที่เกิดขึ้นและดับไป ซึ่งในพระไตรปิฎก อธิบายถึงความเร่าร้อนที่เป็นทุกข์ไว้ว่า ความป่วยทางกายที่เจ็บไข้ ก็เป็นความเร่าร้อนที่เป็นทุกข์ ซึ่งเป็นทุกขอริยสัจจะ และรวมทั้ง กิเลสที่เกิดขึ้น ทีเป็นโลภะ โทสะและโมหะ ก็เป็นเครื่องเร่าร้อนทางจิตที่เป็นทุกขอริยสัจจะด้วยครับ (ปฏิจฉันนทุกข์) และแม้รูปที่เป็นทุกขอริยสัจจะ ก็เป็นสภาพธรรมที่เร่าร้อน เพราะมีการเกิดขึ้นและดับไปนั่นเองครับ ดังเช่นพระพุทธเจ้า ที่ว่าจักษุ (ตา) เป็นของร้อน โสต (หู) เป็นของร้อน เป็นต้น ครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขณะนี้ ไม่พ้นไปจากทุกข์เลย เพราะมีสภาพธรรมที่เกิดเป็นไปอยู่ตลอด ไม่เคยว่างเว้นจากธรรมเลย ธรรมที่เกิดดับนั่นเอง เป็นทุกข์ เมื่อเกิดแล้ว ก็ต้องดับไปเป็นธรรมดา ไม่มีธรรมแม้แต่อย่างเดียวที่เกิดขึ้นแล้วจะไม่ดับไป เพราะมีสภาพธรรมเหล่านี้เกิดขึ้นเป็นไป สัตว์โลกยังไม่พ้นไปทุกข์ยังไม่พ้นไปจากความเร่าร้อน เพราะโลภะ บ้าง โทสะ บ้าง เป็นต้น ยังไม่พ้นไปจากการเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏฏ์ อันเป็นที่ตั้งแห่งทุกข์มากมาย ทั้งทุกข์ทางกาย และ ทุกข์ใจเพราะกิเลสประการต่างๆ หนทางที่จะทำให้พ้นจากความเร่าร้อนประการต่างๆ ก็ต้องอาศัยหนทางแห่งการอบรมเจริญปัญญาเท่านั้นจริงๆ ครับ
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ
ทุกขอริยสัจจะ เป็นความบีบคั้น ความกระวนกระวาย เร่าร้อน เพราะไฟ โลภะ โทสะโมหะ ค่ะ
ขออนุโมทนาครับ