(ไปรษณียบัตรจากท่านผู้ฟังท่านหนึ่ง ซึ่งส่งมาที่บ้านธัมมะ เชียงใหม่)
... จดหมายจากท่านผู้ฟัง ๑๓ ...
ท่านอาจารย์ : มีจดหมายจากท่านผู้ฟังท่านหนึ่งนะคะ ซึ่งท่านก็เขียนมาเล่าให้ฟังถึงประโยชน์ที่ท่านได้รับจากการฟังพระธรรม ขอเชิญท่านผู้ฟังช่วยอ่าน ด้วยค่ะ
ท่านผู้ฟังอ่าน : วันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๓๔
เรียนท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ที่เคารพ
ผมรู้สึกซาบซึ้งในการแสดงธรรมของท่านอาจารย์เป็นอันมาก เพราะเป็นประโยชน์แก่ผมมาก เมื่อก่อนมีความเครียดมาก และมีปัญหาทางครอบครัวมากตอนนั้นผมอยากจะกระทำทุกสิ่งทุกอย่างให้พินาศไป ตามใจที่คิดที่นึก
ผมรู้สึกปวดหัวและประสาท เครียด นอนไม่หลับ วุ่นวายไปหมด วันหนึ่งผมคิดว่า ผมจะทำอย่างไรดี หาทางระบายความทุกข์ที่อยู่ในใจให้ออกไป ประสาทก็เครียดหนักขึ้นทุกที นอนตาแห้ง คิดว่าไหนๆ นอนไม่หลับ ฟังเพลงดีกว่า ฟังเพลงก็ไม่ได้เรื่อง หมุนคลื่นวิทยุไปเรื่อย บังเอิญพบรายการ "ธรรมปฏิบัติในชีวิตประจำวัน" ของท่านอาจารย์ รู้สึกสบายใจขึ้น ทีนี้ผมฟังมาตลอดเลย ประสาทและอาการดังกล่าวค่อยๆ ไปคลายไปทีละนิดๆ เดี๋ยวนี้จิตใจสบายขึ้น ตอนนี้สุขภาพจิตและกายดีขึ้นมาก
เมื่อผมนำธรรมมาใช้ การงานและปัญหาครอบครัวก็เริ่มดีขึ้น (แต่) การศึกษาธรรมของผมยังไม่กระจ่างนัก แต่พอคลายทุกข์ได้บ้าง ผมอยากได้หนังสือธรรมะ การเจริญแนวทางวิปัสสนากรรมฐาน เพื่อจะได้รู้สภาพธรรมตามความเป็นจริงให้ถูกต้อง ขอจบเพียงเท่านี้
ขออานุภาพแห่งธรรมจงคุ้มครองท่านอาจารย์เถิด
ท่านอาจารย์ : ท่านผู้ฟังก็คงจะอนุโมทนา ซึ่งท่านที่ได้รับฟังพระธรรม มีความเข้าใจ ก็ย่อมจะได้รับประโยชน์จากการฟังพระธรรม อีกท่านหนึ่งซึ่งท่านเพิ่งได้รับที่นี่ ท่านเขียนมาว่า....
"หนูฟังอาจารย์ตลอดมา ๒๐ ปีที่ผ่านมา สิ่งที่หนูได้ คือไม่โกรธใคร ไม่พยาบาทใคร และหนูสามารถกราบเท้าใครก็ได้ที่มีคุณ และที่หนูเคยล่วงเกินเขาทางวาจาและทางใจ ทุกวันนี้หนูไม่ร้องไห้แล้ว ไม่ว่าชีวิตแต่ละวันจะมีทุกข์มากเพียงใด ขอท่านอาจารย์จำชื่อหนูไว้"
ท่านอาจารย์ : แล้วก็เป็นชื่อของท่านนะคะ.... ถ้าตราบใดที่ยังไม่หมดกิเลส ก็คงจะต้องมีความทุกข์เล็กๆ น้อยๆ แม้ว่าไม่มากเพราะเหตุว่าก่อนฟังพระธรรมเนี่ยค่ะ มีทุกข์มาก รู้สึกว่าทุกข์นั้นยากที่จะแก้ เป็นปัญหาซึ่งหนักอกหนักใจกัน แต่ถ้าทราบว่าเป็นเพียงชั่วขณะจิต ไม่ว่าจะทุกข์มาสักเท่าไรก็ตาม ก็เพียงชั่วขณะจิตเดียวแล้วก็ดับ ไม่มีสภาพธรรมใดเลยซึ่งจะไม่เปลี่ยนแปลง ต้องมีการเกิดขึ้นและก็ดับไป แล้วก็สลับทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ สุขบ้าง ทุกข์บ้าง ไปแต่ละวัน ที่จะไม่ให้สุขเลย หรือจะไม่ให้ทุกข์เลยนั้น เป็นไปไม่ได้ เพียงแต่ว่า แต่ก่อนเคยทุกข์มาก ก็จะทุกข์น้อยลง แต่ก่อนเคยร้องไห้บ่อยๆ ก็อาจจะไม่ร้องไห้ หรือว่าอาจจะมีบ้างเล็กๆ น้อยๆ ไม่เหมือนเดิม นี่ก็เป็นประโยชน์จากการที่ได้เข้าใจพระธรรมทั้งสิ้น
ถอดเสียงจาก ชุดเทปวิทยุ แผ่นที่ ๓๔ ครั้งที่ ๒๐๖๓
บรรยายโดย ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ที่ห้องประชุมตึกสภาการศึกษา มหามกุฎราชวิทยาลัย
วันอาทิตย์ที่ ๒๕ สิงหาคม ๒๕๓๔
มีประสบการณ์ที่คล้ายคลึงกับผู้เขียนจดหมายค่ะ
และพระธรรมก็ทำให้เข้าใจความจริงว่าเป็นแค่ช่วงขณะจิตเท่านั้น ที่ไม่ควรจะยึดมั่นว่าเป็นคน สัตว์ บุคคล หรือตัวตนใดๆ ทุกวันนี้สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างเข้าใจมากยิ่งขึ้น
ขอขอบพระคุณและอนุโมทนาด้วยค่ะ
ขอกราบนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น กราบท่านอจ.สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ธรรมของพระพุทธองค์นี้ร่มเย็นนัก ชีวิตของผู้พบพระธรรม ได้ฟังพระธรรม เข้าใจพระธรรม ไม่สูญเปล่า เป็นมงคลสูงยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดทั้งปวงค่ะ
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
ในราวปี พ.ศ. ๒๕๔๔ ดิฉันได้เปิดรายการวิทยุตอนเช้ามืด ขณะขับรถไปทำงาน ได้สะดุดกับเสียงผู้หญิงท่านหนึ่งพูดเรื่องจิตและ เสียงมาจากการอัดเทป ครั้งแรกที่ฟังก็ เข้าใจเอาเองว่าท่านกำลังพูดเรื่องการทำงาน ของจิต ซึ่งฟังไม่รู้เรื่องเลย แต่น่าสนใจและเสียงท่านแปลกเพราะดี ก็ฟังไปจนจบ วันต่อมาก็ฟังอีกเพราะชักอยากรู้เรื่องให้มากขึ้นฟังไปฟังมาก็เป็นปี พร้อมทั้งไปเอาเทปและหนังสือที่ มศพ.มาอ่าน
ผู้หญิงท่านนั้น คือท่านอาจารย์สุจินต์ ท่านเป็นผู้ให้ความกระจ่างในพระสัทธรรม และกระตุ้นให้ดิฉัน มุ่งใฝ่ฟังธรรม เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง จากความไม่รู้ เป็นมีความรู้ขึ้นบ้าง เป็นรู้เรื่องทุกข์ขึ้นบ้าง อยู่กับสิ่งที่ดูยุ่งเหยิงได้อย่างสบายใจมากขึ้น มีสติมากขึ้น คลายกับการยึดติดเรื่องไร้สาระ ไปได้บ้าง ก็จากการฟังธรรมของท่านอาจารย์ซ้ำๆ ๆ ๆ ขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์เป็นอย่างสูง ขอให้ธัมมะรักษาคุ้มครองท่านอาจารย์นะคะ
ขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาครับ