พระผู้มีพระภาคเจ้า เมื่อจะทรงพยากรณ์ความนั้นแก่ติสสเมตเตยยมาณพนั้น จึงตรัสสองคาถาว่า กาเมสุ ดังนี้เป็นต้น. ในบทเหล่านั้น บทว่า กาเมสุ พฺรหฺมจริยวา ภิกษุมีพรหมจรรย์ในเพราะกามทั้งหลาย คือ มีพรหมจรรย์มีกามเป็นนิมิต. อธิบายว่า เห็นโทษในกามทั้งหลาย แล้วประกอบด้วยมรรคพรหมจรรย์ ด้วยเหตุเพียงเท่านี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงความเป็นผู้สันโดษ. ทรงแสดงความเป็นผู้ไม่หวั่นไหว. ด้วยบทมีอาทิว่า วีตตณฺโห คือ เป็นผู้ปราศจากตัณหา.
ในบทเหล่านั้น
บทว่า สงฺขาย นิพฺพุโต พิจารณาแล้วดับ คือพิจารณาธรรม ทั้งหลาย โดยความเป็นของไม่เที่ยงเป็นต้นแล้ว ดับด้วยการดับราคะเป็นต้น.
บทว่า อสทฺธมฺมสมาปตฺติยา ความถึงพร้อมด้วยอสัทธรรมคือประกอบด้วยธรรมต่ำ.
บทว่า อารตี ความงด คือ ไกลความยินดี.บทว่า วิรติ ความเว้น คือเว้นจากความยินดีนั้น.
บทว่า ปฏิวิรติ ความ เว้นขาด คือเว้นขาดจากความยินดีนั้น.
บทว่า เวรมณี ความขับไล่เวรคือให้เวรพินาศไป.
บทว่า อกิริยา กิริยาที่ไม่กระทำ คือตัดขาดกิริยา.
บทว่า อกรณ ความไม่ทำ คือตัดขาดการกระทำ.
บทว่า อนชฺฌาปตฺติคือ ความไม่ต้อง.
บทว่า เวลาอนติกฺกโม คือ ความไม่ล่วงแดน บทที่เหลือชัดดีแล้ว เพราะมีนัยได้กล่าวไว้แล้วในที่นั้นๆ .
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย จูฬนิทเทส เล่ม ๖ - หน้าที่ 63
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงพระสูตรนี้ ด้วยธรรมเป็นยอดคือ พระ-อรหัตด้วยประการฉะนี้. เมื่อจบเทศนา พราหมณ์แม้นี้พร้อมด้วย อันเตวาสิกหนึ่งพันได้ตั้งอยู่ในพระอรหัต. ธรรมจักษุเกิดขึ้นแล้วแก่ชนเหล่าอื่นอีกหลายพัน บทที่เหลือเช่นเดียวกันกับบทก่อนนั้นแล.
จบอรรถกถาติสสเมตเตยยมาณวกปัญหานิทเทสที่ ๒
อ่านจบแล้ว ก็ยังเป็นปุถุชนอยู่เลยครับ ยังไม่เห็นโทษของกามเท่าไร นี่แหละครับ คือความยากยิ่ง ลุ่มลึก ไม่อาจถึงได้ด้วยการตรึก ไม่อาจจะประจักษ์แจ้งด้วยการคิด ของพระธรรมครับ ผมขอแค่มีโอกาสได้ฟังพระธรรม คลายความไม่รู้และความเห็นผิด ที่มีมากมายในขณะที่เห็นได้ยิน ... ..คิดนึก นี้ก่อนครับ เพราะการบรรเทาการยึดติดในความเห็นผิดได้ด้วยปัญญา ย่อมทำให้เราเป็นผู้เลี้ยงง่ายขึ้นด้วยความเข้าใจในสรรพสิ่งมากขึ้นอีกนิดว่า สิ่งที่เราเคยชื่นชอบติดใจนักหนา ก็เป็นเพียงแต่นามธรรม หรือรูปธรรมเท่านั้นเอง (ถึงจะเป็นเพียงขั้นคิดครับ)
ขออนุโมทนาครับ
เช่นกันครับ อ่านแล้ว แม้จะคิดตาม ก็ยังได้ความเข้าใจเพียงเล็กๆ น้อย ยังเป็นปุถุชน (คนเดิม?) อยู่นั่นเอง แต่ก็ยินดีและ"แช่มชื่น"ครับที่ยังมีโอกาสได้อ่าน ได้พิจารณา ตามที่ท่านได้กรุณาสละเวลาบำเพ็ญเพียรในการให้ธรรมเป็นทานอันประเสริฐยิ่ง
ขออนุโมทนาครับ