เพราะเมตตา และกรุณาใช่ไหมครับ ที่ท่านทั้งหลายได้ตอบคำถามของกระผมทุกคำถาม (แม้นมันจะจำเจ เดิมๆ บางครั้งอยากค้นหาคำถามและคำตอบที่เคยมีก่อน แต่บางที่ไม่ตรงจริตผม!)
ผมนึกสงสัยว่า อะไรหนอ ทำให้ท่านทั้งลาย มีพลัง แรงกาย แรงใจ ทำความดีทั้งๆ ที่ท่านไม่ยึดติดกับมัน ความรัก และอยากช่วยเหลือพวกผมหรือครับ?
โลกนี้น่าอยู่และน่ารักเพราะมีคนอย่างท่านๆ เคยได้ยินพระสูตร (จำรายละเอียดและที่มาไม่ได้ครับ) มีใจความว่า ถ้าโกรธตอบคนที่โกรธเรา ถือว่าไม่ทำตามคำสอนของพระพุทธองค์ และควรให้ความรักแก่สรรพสัตว์เท่ากับให้ความรักที่ให้แก่ลูกคนเดียวที่เกิดจากตน ข้อความนี้เป็นจริงใช่ไหมครับ คนแบบนี้คงหาได้ยาก.ก.ก มากในความรู้สึกผม นอกจากอริยบุคคลและพระอรหันต์ ในความคิดผมยังไม่เห็นพลังอื่นที่แรงเท่าพลังของเมตตาธรรมและกรุณาธรรม
ขอบคุณเมตตาธรรม กรุณาธรรม และธรรมอื่นที่เป็นหมายสู่ความจริงแท้!
ผมคิดว่าอาจจะไม่ใช่แค่เพียงเพราะ "กุศลเมตตา" และ" กรุณากุศล" ครับ แต่เป็นเพราะกุศลธรรมทุกประการ โดยเฉพาะกุศลธรรมที่ประกอบไปด้วยปัญญาซึ่งก่อให้เกิดความเพียรที่จะกระทำประโยชน์เกื้อกูลแก่ผู้อื่น ด้วยการให้ธรรมทานอันประเสริฐโดยไม่คิดลังเล ดังเช่น ท่านพระสารีบุตร ท่านแสดงธรรมถึงร้อยครั้งพันครั้ง ไม่ใช่เพื่ออะไรทั้งสิ้นก็เพื่ออนุเคราะห์เกื้อกูล จนพระภิกษุซึ่งศึกษากับท่านรูปนั้นได้บรรลุเป็นพระโสดาบัน จากนั้นท่านจึงจะไปแสดงธรรมเกื้อกูลพระภิกษุรูปอื่นต่อไป ท่านพระสารีบุตรท่านช่วยแล้วท่านก็ช่วยตลอดจริงๆ และท่านก็ยังคงกระทำประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายแม้ว่าท่านจะหมดกิจที่จะต้องกระทำ เพราะเป็นถึงพระอรหันต์แล้ว
ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นประโยชน์ของการเจริญกุศลธรรม เวลาส่วนใหญ่ของเราก็คงจะหมดไปกับความสุขเพียงชั่วขณะที่ฟังเพลง เล่นเกมส์ อ่านข่าวบันเทิง หรือเรื่องราวที่ไม่มีสาระแก่นสารตามเว็บไซด์อื่นๆ โดยไม่สนใจที่จะเข้ามาศึกษาพระธรรมในที่แห่งนี้เราคงจะถูกพาให้ไหลไปตามกระแสของอกุศล คือเป็นไปตามอำนาจของ "โลภะ" โดยตลอดด้วยความไม่รู้เนื้อรู้ตัว ถ้าไม่ได้มีโอกาสศึกษาพระธรรม เราก็จะไม่มีทางรู้ว่าตนเองยังมีกิเลสอยู่เต็มและจิตก็ถูกรุมเร้าด้วยอกุศลให้หวั่นไหวอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน เมื่อไม่รู้ตัวก็หลงลืมสติ ก็ย่อมจะไม่รู้จักอกุศล เมื่อไม่รู้จักอกุศล ก็ย่อมจะไม่เห็นโทษจริงๆ ของอกุศล เมื่อไม่เห็นโทษ ก็ย่อมจะไม่ละอาย และไม่เกรงกลัวต่อบาปที่คิดจะกระทำ
สุดท้าย ก็ไม่พ้นที่จะต้องพบเจอกับความทุกข์ใจแสนสาหัสจากอกุศลกรรมอันเกิดจากความประมาทในการเจริญกุศลช้าไป เพราะพอคิดจะเจริญกุศลขึ้นมาก็ถูกอกุศลรั้งไว้ไม่ให้กระทำ ปุถุชนเป็นผู้ที่สั่งสมกิเลส ได้แก่อวิชชามามาก แทนที่จะได้เจริญกุศลก็กลับกลายเป็นการงอกเงยของอกุศลไปเสียแล้ว ...
ขออนุโมทนาในกุศลผลบุญของคุณ natthaset ที่ได้มีโอกาสเข้ามาศึกษาพระธรรมโดยแนวทางการเจริญปัญญา เพราะชาติไหนก็ไม่ประเสริฐเท่าชาติ
ที่เกื้อกูลกันด้วยพระธรรมครับ
ขอบคุณ ขออนุโมทนา
ขอกราบบูชาคุณพระรัตนตรัย
ขออนุโมทนาในกุศลจิตกับความคิดเห็นที่ ๓ ด้วยค่ะ
ผมเริ่มจะเข้าใจคำว่า กุศลธรรม ขึ้นบ้างแล้วครับ
ยินดีในกุศลจิตค่ะ