ดิฉันขอกราบเรียนถามท่านอาจารย์ สุจินต์ ที่เคารพ ตลอดเวลาที่ฟังบรรยายธรรมจากท่านอาจารย์ ดูเหมือนจะเข้าใจสภาพธรรมที่เกิดดับ แต่แท้จริงแล้วสิ่งที่รู้นั้นเกิดจากความจำที่ได้จากการฟังบรรยายและการอ่านหนังสือ มิได้รู้จริงแบบประจักษ์แจ้งในสภาพธรรมในคำบรรยายหลายๆ ครั้งที่ท่านอาจารย์กล่าวว่า เราต้องตรงต่อตนเอง อาจหาญ ร่าเริงในธรรม สองข้อความนี้ช่างกินใจเหลือ
ทุกวันนี้พยายามถามตัวเองละกิเลสได้แค่ไหน โดยเทียบเคียงจากศีล สติ ปัญญา ดังที่อาจารย์กล่าวอยู่เสมอว่าทุกอย่างเกิดจากเหตุ ขอต่อหน่อยนะคะว่า เหตุดีผลย่อมดี (หมายถึงเลือกทำในสิ่งที่ถูกต้องแห่งธรรมแม้บางครั้งจะต้องอึดอัด) ที่กล่าวว่าพยายามทำดีดูเหมือนว่าจะทำได้เมื่อสติเกิดระลึกถึงกุศลที่ควรประกอบอยู่เสมอ แต่สิ่งที่อยากเรียนถามหนทางในข้อน้อมนำธรรมของท่านอาจารย์เมื่อครั้งอดีตในตอนเริ่มต้นศึกษาพระธรรม มีประการใดบ้าง ด้วยความเคารพและศรัทธาท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
กราบเท้าด้วยความเคราพ
ยุพิน สุชลธาดา
ต้องกราบขออภัยที่ถามโดยเจาะจงมากเกินใป เพียงแต่ต้องการแม่แบบที่งดงามดั่งเช่นอาจารย์สุจินต์ ไม่อาจเทียบเคียงกับท่านอาจารย์ท่านอื่น เพราะอาจารย์ทุกๆ ท่านได้บรรยายธรรมล้วน มีคุณประโยขน์เป็นการอนุเคราะห์ฟังทั้งสิ้น ควรกล่าวอนุโทนาเป็นอย่างยิ่ง หากแต่คำกล่าวของท่านอาจารย์สุจินต์ตลอดเวลา 8 ปีที่ฟังมีคำพูดไม่มากประโยคนัก ที่กล่าวซ้ำแล้วซ้ำอีก ที่แสดงความเป็นผู้ตรงต่อพระธรรมเพื่อย้ำเตือนสติผู้ฟังเสมอ ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกเสื่อมใสศรัทธาเป็นยิ่งนัก อดคิดหาเหตุผลไม่ได้ว่า ท่านอาจารย์น้อมนำข้อพระสัจธรรมส่วนใดบ้างมาดำรงชีวิต ใช้ในการประกอบมหากุศลอยู่ตลอดเวลา
กราบเท้าขออภัย
ยุพิน สุชลธาดา
ขอแสดงความเห็นแทนท่านอาจารย์ครับเข้าใจว่าเมื่อท่านศึกษาพระธรรมจนเข้าใจแล้ว ท่านเห็นใจผู้ที่ไม่รู้อีกจำนวนมาก ที่ยังอยู่ในความมืด ตกอยู่ในห้วงแห่งอวิชชา ไม่ได้ศึกษาพระธรรมอย่างถูกต้อง อาศัยความกรุณา ขันติ และเมตตา จึงกระทำกิจเผยแพร่ในสิ่งที่ถูกต้อง เพื่อประโยชน์แก่ผู้ศึกษาคือความเข้าใจถูกตรงตามพระสัทธรรมของพระพุทธองค์ เพื่อการดำรงอยู่ของพระสัทธรรมอันประเสริฐ
ขอกราบอนุโมทนาท่านอาจารย์ครับ
ขออนุโมทนาค่ะ การตอบแทนพระคุณที่ดีที่สุดคือการฟังให้เข้าใจจริงๆ ในสิ่งที่ฟัง
ขออนุโมทนาค่ะ