ทรัพย์สมบัติเป็นที่เครี่องอาศัยชั่วคราว
โดย ธรรมทัศนะ  1 ส.ค. 2551
หัวข้อหมายเลข 9443

ในสังสารวัฏฏ์เราไม่ได้ทำแต่กรรมดีอย่างเดียว เราก็เคยทำอกุศลกรรมด้วย ไม่ว่า เราจะได้อะไรมา หรือสูญเสียอะไรไป เป็นเรื่องของกรรมที่เราเคยทำไว้ กุศลที่คุณ เคยทำไว้ ไม่สูญหายไปไหน ถ้าไม่ให้ผลชาตินี้ ก็ให้ผลชาติหน้า หรือชาติต่อๆ ไป ทรัพย์สมบัติเป็นที่เครี่องอาศัยชั่วคราวแต่ปัญญาและกุศลเป็นที่พึ่งในภพหน้าค่ะ



ความคิดเห็น 1    โดย prakaimuk.k  วันที่ 2 ส.ค. 2551

.....ทรัพย์สมบัติเป็นเครื่องอาศัยชั่วคราว แต่ปัญญาและกุศลเป็นที่พึ่งในภพหน้า....

ขออนุโมทนาค่ะ.....


ความคิดเห็น 2    โดย suwit02  วันที่ 2 ส.ค. 2551

สาธุ


ความคิดเห็น 3    โดย เซจาน้อย  วันที่ 2 ส.ค. 2551
ขออนุโมทนาครับ

ความคิดเห็น 4    โดย paderm  วันที่ 3 ส.ค. 2551

เรื่องของเงินทอง

อนึ่ง เงินทองนี้ทำให้เกิดความโลภ ความ มัวเมา ความลุ่มหลง ความติดดังเครื่องผูก มีภัย มีความคับแค้นมาก เงินทองนั้นไม่ตั้งอยู่ยั่งยืนเลย.

นรชนเป็นอันมาก ประมาทมีใจเศร้าหมองแล้ว เพราะเงินทองเท่านี้ จึงต้องเป็นศัตรู วิวาทบาดหมาง กันและกัน.

อาสวะทั้งหลาย ไม่ใช่หมดสิ้นไปเพราะเงินทอง ดอกนะ กามทั้งหลายเป็นอมิตร เป็นผู้ฆ่า เป็นศัตรู เป็นดั่งลูกศรเสียบไว้.

สุภากัมมารธิดาเถรีคาถา

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เถรีคาถา เล่ม ๒ ภาค ๔ - หน้าที่ 416


ความคิดเห็น 5    โดย paderm  วันที่ 3 ส.ค. 2551

เป็นผู้มีทรัพย์มากในโลก

ดูก่อนอุคคะ ทรัพย์นั้นมีอยู่แล เรามิได้กล่าวว่าไม่มี แต่ทรัพย์นั้นแลเป็นของทั่วไปแก่ไฟ น้ำ พระราชา โจร ทายาทผู้ไม่เป็นที่รัก

ดูก่อนอุคคะ ทรัพย์ ๗ประการนี้แล ไม่ทั่วไปแก่ไฟ น้ำ พระราชา โจร ทายาทผู้ไม่เป็นที่รัก ๗ ประการเป็นไฉน คือ ทรัพย์คือ ศรัทธา ๑ ศีล ๑ หิริ ๑ โอตตัปปะ ๑สุตะ ๑ จาคะ ๑ ปัญญา ๑

ดูก่อนอุคคะ ทรัพย์ ๗ ประการนี้แล ไม่ทั่วไปแก่ไฟ น้ำ พระราชา โจร ทายาทผู้ไม่เป็นที่รัก


ความคิดเห็น 6    โดย choonj  วันที่ 3 ส.ค. 2551

ปัญญาและกุศลเป็นที่พึ่งในภพหน้า เห็นด้วยครับ แต่ไม่แน่ ชาติหน้าอาจจะยังไม่ได้พึ่ง.

ทรัพย์เป็นที่อาศัยชั่วคราว ก็เห็นด้วยอีก แต่อย่าประมาทโดยไม่ขยันขันแข็งหาทรัพย์โดยคิดแต่จะพึ่งกุศลกรรม เพราะไม่ลงแรงหาทรัพย์กุศลกรรมก็ส่งผลช้าครับเราทุกคนที่ได้รับวิบากที่ดีๆ ก็หนีไม่พ้นการใช้ทรัพย์ทั้งนั้น.


ความคิดเห็น 7    โดย wannee.s  วันที่ 3 ส.ค. 2551

กุศลไม่ได้มีเฉพาะการให้ทาน ที่เกิดจากการใช้ทรัพย์อย่างเดียว บุญกิริยาวัตถุ มี 10 เช่น ทานมี 3 อย่าง วัตถุทาน อภัยทาน ธรรมทาน หรือการให้ความช่วยเหลือ กิจการงานที่เป็นกุศล การอุทิศส่วนกุศล การฟังธรรม การอ่อนน้อมต่อผู้มีคุณ การ ยินดีในกุศลที่คนอื่นทำ การได้รับวิบากที่ดี เป็นผลของการรักษาศีลและกุศลอื่นๆ ก็ได้ ที่สำคัญปัญญาเท่านั้นที่จะนำไปสุคติภูมิ สูงสุดคือการออกจากสังสารวัฎค่ะ


ความคิดเห็น 8    โดย kaewin  วันที่ 3 ส.ค. 2551

จิต ที่ มีอุปาทาน ยึดที่ ตัวตน เมื่อรู้ สิ่งนั้น ย่อมคิด ว่า สิ่งนั้น เป็น ของๆ ตน ความเป็น อนัตตา อยู่ที่ ตรงไหน ... อยาก ให้ทุก คน ถาม ตัวเอง ว่า หากจิตในขณะ นี้ ไม่นึกถึงสมบัติ ยังจะมี สมบัติไหม หากจิตขณะนี้ไม่มี ตัวเขา ตัวเรา นั้น ตัวเขา ตัวเรา นั้น จัก มี อยู่ไหม ขออนุโมทนา สาธุ ครับ mail มาให้ความรูกันได้นะครับ

(เผื่อท่านผู้รู้มาให้ปัญญา ... )


ความคิดเห็น 9    โดย พรรณี  วันที่ 4 ส.ค. 2551

ทรัพย์สมบัติและเงินทอง มีไว้ใช้ในโลกนี้เท่านั้น หาได้ติดตามตนไปไม่ ฉะนั้นการสะสมทรัพย์ไว้มากๆ อาจจะเป็นการสิ้นเปลืองเวลา ควรสะสมการฟังพระธรรมไว้เป็นทรัพย์ที่จะทำให้ปัญญาเกิด ไว้ให้มากจะดีกว่า


ความคิดเห็น 10    โดย Pararawee  วันที่ 4 ส.ค. 2551

ขออนุโมทนากุศลจิตของทุกท่านค่ะ


ความคิดเห็น 11    โดย opanayigo  วันที่ 2 ก.ย. 2551

อริยทรัพย์ ๗ ประการเป็นทรัพย์ที่ควรทำให้เจริญงอกงาม

ขออนุโมทนาทุกท่านค่ะ


ความคิดเห็น 12    โดย pornpaon  วันที่ 5 ก.ย. 2551

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 13    โดย pamali  วันที่ 10 ส.ค. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 14    โดย chatchai.k  วันที่ 28 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 15    โดย nattawan  วันที่ 17 ก.ค. 2567

ยินดีในกุศลจิตค่ะ


ความคิดเห็น 16    โดย nattawan  วันที่ 17 ก.ค. 2567

ยินดีในกุศลจิตค่ะ