สิ่งที่เป็นอันตรายต่อผู้ศึกษา - สิ่งที่จะทำให้หลงทางในพระพุทธศาสนา
โดย สารธรรม  1 ม.ค. 2554
หัวข้อหมายเลข 17670

(พระตำหนักบนดอยอินทนนท์)

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น

ถอดเสียงการสนทนาธรรมจาก ... ชุดปกิณณกธรรม ครั้งที่ ๒๖๒

โดย .... ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์

"สิ่งที่เป็นอันตรายต่อผู้ศึกษา - สิ่งที่จะทำให้หลงทางในพระพุทธศาสนา"

ผู้ถาม ขอกราบเรียนถามท่านอาจารย์นะคะ อาจจะเป็นความเห็นส่วนตัวสักเล็กน้อยนะคะ บางครั้งจะมีความรู้สึกว่า การจะนำพระธรรมคำสอนมาใช้ในชีวิตประจำวัน หรือว่าใช้ในเชิงวิชาชีพ มันเป็นสิ่งที่ยาก และบางครั้งเวลาเราทำนี่ เราก็จะมีความรู้สึกสงสัยไม่แน่ใจ ถูกต้องหรือเปล่า การให้ความรู้คนผิดๆ ก็คงจะเป็นโทษอย่างมหันต์ ความลังเล สงสัย ไม่แน่ใจนี่ มันจะเข้ามาตลอดเวลา และบางครั้งเราก็จะรู้สึกว่า เราจะสวนกระแสนี้ไหวไหม เพราะว่ากระแสทางโลกยุคปัจจุบันนี่ ต้องการอะไรที่ง่าย เบ็ดเสร็จ สมบูรณ์ สะดวกสบาย แล้วก็ธรรมก็อยู่ในกระแสของความคิดของคนไทยว่าเป็นเรื่องที่ง่ายไปเสียแล้วอย่างนี้นะคะ ก็เลยรู้สึกว่าบางทีก็พบอุปสรรคมากเหลือเกินในการทำงานเพื่อพระศาสนาอย่างนี้น่ะค่ะ ขอกราบเรียนถามว่า ความสงสัย ความลังเลใจนี้ มันเป็นตัวที่บั่นทอนพอสมควรนะคะ ขอบพระคุณค่ะ

ท่านอาจารย์ วิธีที่จะหายสงสัย คือ เราศึกษาเพิ่มขึ้น จนกระทั่งความสงสัยนั้นลดน้อยลงไป แต่ว่า เราก็คงจะไม่ลืมว่าโลกยุคนี้เป็นยุคเสื่อมของพระศาสนา อีกไม่นานเลย พระศาสนาจะอันตรธาน มีพระไตรปิฎกจริง มีอรรถกถาจริง มีตำราจริง แต่ไม่มีความเห็นถูกตามตำรา หรือว่าตามพระไตรปิฎกนั้น ก็เท่ากับว่าเพิ่มความเห็นผิดอย่างรวดเร็วมาก ยิ่งความเห็นผิดแพร่หลายมากเท่าไร ก็บั่นทอนความถูกต้องของพระศาสนามากเท่านั้น

ซึ่งเราไม่มีทางจะไปทำอะไรได้เลย กับจิตใจของคน กับยุคสมัยของโลก แต่เราสามารถจะช่วยตัวเองได้ โดยการที่ว่าเป็นคนหนึ่งที่จะไม่เห็นผิด ต้องอาจหาญ ร่าเริง กล้าหาญจริงๆ ต่อการ ที่จะอยู่ฝ่ายถูก ถ้าเรา (มีความ) เห็นอย่างนี้ ก็คงจะไม่มีใครเอาเราไปฆ่าตายมั้ง ถ้าจะไม่ได้ลาภ ไม่ได้ยศ ไม่สรรเสริญ เพราะสอนถูก ก็ไม่เห็นเป็นไร เพราะเราไม่ได้ต้องการลาภ ยศ สรรเสริญจากพระศาสนา หรือจากใดๆ เพราะว่าต้องเป็น "เรื่องละ"
สิ่งหนึ่งซึ่ง ทุกคนจะหลงทางจากพระศาสนาก็คือว่า คำนึงถึงตัวเอง แล้วก็เป็นผู้ที่คำนึงในลาภ ยศ สรรเสริญ สักการะ แต่ถ้าเป็นผู้ที่เป็น (ผู้คำนึงถึง) "เรื่องละ" โดยตลอดจะเห็นว่า ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข เป็นไปตามเหตุตามปัจจัย แล้วก็หมด ไม่เห็นมีอะไรที่ยั่งยืน
การสรรเสริญจริงๆ นี่ สรรเสริญคุณความดี หรือว่า สรรเสริญเกียรติยศ ชื่อเสียง เงินทอง ลองคิดดู ใครก็ตามที่มีเกียรติยศใหญ่ มีชื่อเสียงมาก มีเงินทองมหาศาล ก็เป็นที่ติเตียนในความประพฤติที่ไม่ดีทางกาย วาจา และรวมไปถึงใจด้วยถ้าเป็นผู้ที่โหดร้ายใช่ไหม แต่ว่าถ้าเป็นผู้ที่ดี เป็นกุศล ถึงจะไม่มีลาภ ยศ สรรเสริญ สุข อย่างนั้นใช่ไหม แต่ก็ไม่มีใครไปติเตียน
สิ่งหนึ่งที่เป็นอันตราย แม้แต่ผู้ที่ศึกษาธรรม ก็คือ การติดในสักการะ ในลาภ ยศ สรรเสริญ เพราะฉะนั้น ต้องเป็นผู้ที่มั่นคงจริงๆ เพื่อการละ ไม่ว่าจะศึกษา ไม่ว่าจะทำงานเผยแพร่พระศาสนา ก็เป็นไปเพื่อการละ

แต่ถ้าเป็นผู้ที่มีความเห็นถูกต้องจริงๆ จะเห็นคุณประโยชน์ของการเป็นผู้ที่มั่นคงในทางที่ถูกต้อง วันหนึ่งข้างหน้าก็จะได้ประโยชน์ใหญ่จริงๆ ที่จะเป็นผู้ที่ไม่ตามสิ่งที่ผิด หรือว่าตามหมู่คณะในทางที่ผิด เป็นผู้ที่กล้าที่จะยืนอยู่ในทางที่ถูกได้ ต้องเป็นที่สรรเสริญแน่ สำหรับผู้ที่มั่นคง

ยามเย็นในแต่ละวัน เตือนให้ระลึกถึงความตาย ว่า ชาติหน้า อาจจะเป็นเช้าของวันต่อไปก็ได้ กิจที่ท่านควรกระทำ ได้กระทำถึงไปไหนแล้ว



ความคิดเห็น 1    โดย เมตตา  วันที่ 1 ม.ค. 2554

เราสามารถจะช่วยตัวเองได้ โดยการที่ว่าเป็นคนหนึ่งที่จะไม่เห็นผิด ต้องอาจหาญ ร่าเริง กล้าหาญจริงๆ ต่อการ ที่จะอยู่ฝ่ายถูก ถ้าเรา (มีความ) เห็นอย่างนี้ ก็คงจะไม่มีใครเอาเราไปฆ่าตาย ถ้าจะไม่ได้ลาภ ไม่ได้ยศ ไม่สรรเสริญ เพราะสอนถูก ก็ไม่เห็นเป็นไร เพราะเราไม่ได้ต้องการลาภ ยศ สรรเสริญจากพระศาสนา หรือจากใดๆ เพราะว่าต้องเป็น "เรื่องละ"

ขอกราบอนุโมทนาท่านอาจารย์ค่ะ

ขอขอบพระคุณและขออนุโมทนาคุณสารธรรมด้วยค่ะ และ

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ

สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๔ ค่ะ


ความคิดเห็น 2    โดย aurasa  วันที่ 1 ม.ค. 2554

กราบขอบพระคุณ และอนุโมทนาอย่างยิ่งค่ะ ที่ได้นำคำสอนท่านอจ.มาเผยแพร่เป็นข้อคิดเตือนใจ ให้มั่นคงในการศึกษา การฟัง พระธรรม ต่อไป


ความคิดเห็น 3    โดย พุทธรักษา  วันที่ 1 ม.ค. 2554

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 4    โดย pamali  วันที่ 1 ม.ค. 2554

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 5    โดย จักรกฤษณ์  วันที่ 2 ม.ค. 2554

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 6    โดย เซจาน้อย  วันที่ 2 ม.ค. 2554

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 7    โดย คุณ  วันที่ 3 ม.ค. 2554

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 8    โดย อุตตมสารี  วันที่ 3 ม.ค. 2554

สาธุๆ ๆ

ถ้าไม่ต้องการอะไรๆ ๆ ในลาภ ยศ สุข สรรเสริญ แล้วก็ไม่มีปัญหาที่จะดำรงความถูกต้องไว้ได้


ความคิดเห็น 9    โดย aiatien  วันที่ 3 ม.ค. 2554

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 10    โดย ประสาน  วันที่ 4 ม.ค. 2554

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านด้วยครับ


ความคิดเห็น 11    โดย dron  วันที่ 4 ม.ค. 2554
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

ความคิดเห็น 12    โดย hadezz  วันที่ 5 ม.ค. 2554

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 13    โดย วันชัย๒๕๐๔  วันที่ 5 ม.ค. 2554

"...เพราะฉะนั้น ต้องเป็นผู้ที่มั่นคงจริงๆ เพื่อการละ ไม่ว่าจะศึกษา ไม่ว่าจะทำงานเผยแพร่พระศาสนาน ก็เป็นไปเพื่อการละ..."

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 14    โดย สมศรี  วันที่ 5 ม.ค. 2554

ขอขอบพระคุณและอนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 15    โดย JOllY  วันที่ 5 ม.ค. 2554
ขอให้ทุกท่านเจริญกุศลในทุกประการ...^^

ความคิดเห็น 16    โดย pornpaon  วันที่ 6 ม.ค. 2554

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 17    โดย jipoam  วันที่ 18 ม.ค. 2554

..ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ..

แด่เพื่อนผู้ร่วมทางธรรมพึงมีแรงปรารถนาอันแรงกล้า พึงศึกษาธรรมโดยไม่ประมาท


ความคิดเห็น 19    โดย ประสาน  วันที่ 4 ส.ค. 2554
ขออนุโมทนา

ความคิดเห็น 20    โดย aia_wee  วันที่ 4 ส.ค. 2554
ขออนุโมทนาค่ะ

ความคิดเห็น 21    โดย พุทธรักษา  วันที่ 4 ส.ค. 2554
ขออนุโมทนาค่ะ

ความคิดเห็น 22    โดย orawan.c  วันที่ 4 ส.ค. 2554
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

ความคิดเห็น 23    โดย ผ้าเช็ดธุลี  วันที่ 13 ก.ย. 2554

กราบขอบพระคุณ และ อนุโมทนากุศลจิตครับ


ความคิดเห็น 24    โดย kinder  วันที่ 11 ต.ค. 2554
สาธุ

ความคิดเห็น 25    โดย เซจาน้อย  วันที่ 25 ม.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 26    โดย ประสาน  วันที่ 23 ก.ค. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 27    โดย chatchai.k  วันที่ 11 พ.ย. 2563

ขออนุโมทนาครับ