ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
[เล่มที่ 27] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค เล่ม ๓ - หน้าที่ 20
ข้อความบางตอนจาก พระสุตตันตปิฎก เล่มนี้
เชิญคลิกอ่านที่นี่
กำจัดฉันทราคะในสิ่งอะไร [ขันธวารวรรค]
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ข้อความมาจากพระสูตร คือ เทวทหสูตร ซึ่จะขออธิบายพอสังเขปดังนี้ครับ
พระภิกษุทั้งหลาย กำลังจะไปที่ชนบทที่อื่น จึงไปกราบทูลลาพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าตรัสว่า เธอได้ลาสารีบุตรหรือยัง พระภิกษุทั้งหลายกราบทูบว่ายัง พระภิกษุทั้งหลายจึงไปหาท่านพระสารีบุตรเพื่อลา เมื่อพบกับท่านพระสารีบุตร ท่านก็ได้ถามปัญหาธรรมและได้แสดงธรรมให้กับภิกษุทั้งหลายฟัง จะเห็นนะครับว่า ผู้มีปัญญาย่อมไม่ละเลยโอกาส แม้เพียงได้พบกันเพียงชั่วเวลาไม่นาน ก็ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์คือการแสดงธรรม ฟังพระธรรม ซึ่งพระพุทธองค์ทรงทราบเหตุที่ท่านพระสารีบุตรจะแสดงธรรมกับภิกษุเหล่านั้น และภิกษุจะได้ประโยชน์ พระองค์จึงมีรับสั่งให้พระภิกษุทั้งหลายไปลา ท่านพระสารีบุตรก่อน ซึ่งเนื้อหาที่ท่านพระสารีบุตรแสดงธรรมกับพระภิกษุทั้งหาย มีเนื้อหาพอสังเขปดังนี้
ท่านพระสารีบุตรกล่าวว่า หากว่า มีผู้อื่นสอบถามว่า พระพุทธเจ้าทรงสอนธรรมว่าอย่างไร ก็พึงกล่าวว่า สอนให้ละฉันทราคะ ฉันทราคะในที่นี้ ก็เป็นชื่อหนึ่งของ โลภะ คือ ความติดข้อง ละความติดข้อง ท่านพระสารีบุตรก็แสดงต่อไปว่า ละฉันทราคะ โลภะ ความติดข้องในอะไร ละความติดข้องในรูป เวทนา สัญญา สังขารและวิญญาณ คือ ละความติดข้องในขันธ์ ๕ ในสภาพธรรมที่มีจริงที่ยึดถือว่าเป็นเรานั่นเองครับ และเมื่อผู้อื่นถามต่อไปว่า ท่านท้้งหลายเห็นโทษอะไร จึงให้ละความติดข้อง ละฉันทราคะในรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ในขันธ์ ละความติดข้องที่บัญญัติว่าเป็นเรา ท่านพระสารีบุตรกล่าวต่อไปว่า เพราะความติดข้องในขันธ์ ๕ ในตัวเรา มีผล คือ ความทุกข์กาย ความทุกข์ใจ ความเศร้าเสียใจ เป็นผลของความติดข้องในร่างกาย ในตัวเรา ในสภาพธรรมครับ เพราะว่า ขันธ์ ๕ สภาพธรรม ร่างกาย จิต ต้องเกิดขึ้นและดับไป เป็นอนัตตา บังคับบัญชาไม่ได้ ไม่เที่ยงด้วย เมื่อสิ่งนั้นไม่เที่ยงและไม่เป็นดั่งใจเรา ก็ต้องทุกข์ เพราะต้องพลัดพรากจากสิ่งเหล่านั้น ดังนั้น เพราะมีความติดข้อง จึงทำให้ทุกข์ ครับ โทษของการติดข้องในขันธ์ ๕ จึงทำให้ทุกข์ จึงควรละความติดข้อง ฉันทราคะใน ขันธ์ ๕ ครับ
ท่านพระสารีบุตรกล่าวต่อไปว่า หากผู้อื่นถามต่อไปว่า และท่านเห็นอานิสงส์ สิ่งที่ดีอะไร ถึงให้ละฉันทราคะ ความติดข้องในขันธ์ ๕ ท่านพระสารีบุตรกล่าวว่า เพราะเมื่อละความติดข้องในขันธ์ ๕ ในร่างกายของเราได้ ก็ไม่ต้องทุกข์กายและทุกข์ใจเลย ไม่ต้องเสียใจอีกครับ
ท่านพระสารีบุตรกล่าวต่อไปว่า พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญการละอกุศลธรรม มีการละฉันทราคะ คือ ความติดข้อง เพราะ เมื่อละอกุศศลธรรมแล้ว ก็ไม่ต้องทุกข์กายและใจ ย่อมนำไปสู่สุคติ และพระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญการเจริญของกุศลธรรม เพราะไม่นำมาซึ่งทุกข์ประการต่างๆ และนำไปสุ่สุคติครับ
ซึ่งหนทางการละฉันทราคะ คือ ความติดข้องในนาม รูป ในขันธ์ ๕ ในสภาพธรรม ก็ต้องเริ่มจากการฟังพระธรรมให้เข้าใจ โดยเริ่มจากปัญญาขั้นต้นให้เข้าใจก่อนครับว่า ธรรมคืออะไร เพราะยังละความติดข้องทันทีไม่ได้ เพราะกิเลสที่ต้องดับก่อนคือความเห็นผิดว่า เป็นสัตว์ บุคคล ตัวตนครับ อาศัยการฟัง ศึกษาพระธรรมก็จะทำให้ถึงการละความติดข้องในสภาพธรรมต่างๆ ได้ในที่สุด แต่ต้องใช้เวลายาวนานครับ จึงต้องอดทนและอบรมต่อไป
ขอบคุณและขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขอเชิญคลิกอ่านข้อความเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ
เทวทหสูตร
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขอบคุณและขออนุโมทนาครับ
ขอบคุณและขออนุโมทนาค่ะ
ขอบคุณและขออนุโมทนาครับ
การกำจัดฉันทราคะ เป็นเรื่องของผู้มีปัญญามาก เบื้องต้นต้องมีความรู้ความเข้าใจก่อน
ลำดับแรก ละความเห็นผิดในสัตว์ บุคคล ตัวตน แล้วเมื่อปัญญาเจริญขึ้น ก็จะค่อยๆ ละความติดข้องในขันธ์ทั้ง ๕ เองค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ