อยู่มาในสังสารวัฏฏ์โดยไม่เข้าใจสิ่งที่กำลังมีเดี๋ยวนี้ตามความเป็นจริง สิ่งที่มีเดี๋ยวนี้สั้นแสนสั้น ยากแสนยากที่จะรู้ความจริงของสิ่งที่กำลังมีได้โดยไม่ใช่เรา ต้องมั่นคงในคำว่าไม่ใช่เรา
สัทธรรมคือธรรมะของผู้สงบ ถ้าไม่มีปัญญาไม่มีทางสงบเลย สงบจากความไม่รู้ สงบจากความติดข้อง สงบจากกิเลสทั้งหมดที่มีในชีวิตประจำวัน
กว่าจะถึงความเป็นผู้ที่มีขณะที่สงบ ก็คือมีขณะที่เข้าใจสิ่งที่กำลังมีขณะนี้ตามความเป็นจริง
ตั้งต้นที่คำว่าธรรมะขณะนี้ ขณะที่มีประโยชน์อย่างยิ่งคือสงบจากความไม่รู้ สงบจากการที่เข้าใจผิดยึดถือสภาพธรรมะว่าเป็นเรา ไม่มีเราแต่มีธรรมะที่ปรากฏแสนสั้นแล้วก็ดับและไม่กลับมาอีกเลย เป็นผู้ฟังเพื่อไม่หวัง ... ไม่ใช่ผู้หวัง เพราะเป็นธรรมะที่เกิดเพราะปัจจัย ถ้าไม่มีปัจจัยเกิดไม่ได้เลย หวังสักเท่าไหร่ไม่ใช่ปัจจัยที่จะให้เข้าใจสิ่งที่กำลังปรากฏ
ฟังเพราะเป็นผู้เห็นประโยชน์ที่จะได้เข้าใจความจริง ค่อยๆ ขัดเกลาความไม่รู้ที่สะสมมานานแสนนานในสังสารวัฏฏ์
ฟังแล้วเป็นปกติไหม!!! เดือดร้อนบ้างไหมว่าเราไม่รู้!!! ทำอย่างไรจะรู้สักที..คิดอย่างนี้หรือเปล่า!!!
ทุกครั้งที่ฟังพระธรรม ประโยชน์คือเข้าใจแค่ไหนก็แค่นั้นตามกำลังปัญญาของแต่ละคนที่จะเข้าใจได้ ถ้าเห็นประโยชน์ฟังต่อไป ศึกษาต่อไป ความเข้าใจก็จะค่อยๆ เจริญขึ้น มั่นคงขึ้นในความเป็นจริงของธรรมะ
กราบบูชาคุณท่านอ.สุจินต์ บริหารวนเขตต์ด้วยความเคารพยิ่ง
.. อนุโมทนาค่ะ..
ขออนุโมทนาคขออนุโมทนาค่ะ ขออนุโมทนาครับ
เจริญธรรมครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาครับ
ยินดีในกุศลจิตค่ะ