ผมรู้สึกมีบุญเป็นอย่างมากเลยครับ ที่ได้มีโอกาสมาศึกษาพระพุทธศาสนาที่ถูกต้อง จากเว็บไซต์บ้านธัมมะขอบพระคุณท่านอาจารย์สุจินต์และท่านวิทยากรและทีมงานบ้านธัมมะ ที่เมตตาอุทิศตนเผยแพร่พระพุทธศาสนา ผมมีโอกาสได้แนะนำในอาอี๊ (น้องสาวแม่ผม) ซึ่งอาอี๊สนใจด้วย ผมดีใจจริงๆ เพราะว่าในครอบครัวของหม่าม้าไม่สนใจในเรื่องของศาสนาเลย
ช่วยใครได้ก็ช่วยไปเยอะๆ เลยนะครับ ขออนุโมทนาด้วย
พึ่งมาใหม่ครับ อนุโมทนาด้วย
ขอ อนุโมทนา ด้วยค่ะ
“.....ดูก่อนจอมเทพ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ได้สดับว่า ธรรมทั้งปวงไม่ควรยึดมั่น ถ้าข้อนั้น
ภิกษุได้สดับแล้ว ภิกษุนั้นย่อมทราบชัดธรรมทั้งปวงด้วยปัญญาอันยิ่ง ครั้นทราบชัด
ธรรมทั้งปวงด้วยปัญญาอันยิ่งแล้ว ย่อมกำหนดรู้ธรรมทั้งปวง ครั้นกำหนดรู้ธรรมทั้ง
ปวงแล้ว เธอได้เสวยเวทนาอย่างใดอย่างหนึ่ง สุขก็ดี ทุกข์ก็ดี มิใช่ทุกข์มิใช่สุขก็ดี
เธอย่อมพิจารณาเห็นว่าไม่เที่ยง พิจารณาเห็นความหน่าย พิจารณาเห็นความดับ
พิจารณาเห็นความสละคืนในเวทนาทั้งหลายนั้น เมื่อพิจารณาเห็นดังนั้น ย่อมไม่ยึด
มั่นสิ่งอะไรๆ ในโลก เมื่อไม่ยึดมั่นย่อมสะดุ้งหวาดหวั่น ย่อมดับกิเลสให้สงบได้เฉพาะ
ตัว และทราบชัดว่าชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำทำเสร็จแล้ว กิจอื่น
เพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี ดูก่อนจอมเทพ กล่าวโดย่อด้วยข้อปฏิบัติเพียงเท่านี้แล
ภิกษุชื่อว่าน้อมไปแล้ว ในธรรมเป็นที่สิ้นแห่งตัณหา มีความสำเร็จอันยิ่งยวด ถึงที่สุด
อันยิ่งยวด เป็นผู้ประเสริฐกว่าเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ฯ ”
จูฬตัณหาสังขยสูตร มู. ม. (๔๓๙) ตบ. ๑๒ : ๔๗๐-๔๗๑ ตท.๑๒ : ๓๘๒-๓๘๓
ตอ. MLS. I : ๓๑๐-๓๑๑