ไม่ควรหมกมุ่นหรือ in กับการเมืองมากเกินไป
โดย orawan.c  31 พ.ค. 2550
หัวข้อหมายเลข 3857

จากข่าว เรื่องยุบพรรคการเมือง ถ้าเชื่อในเรื่องกรรมและผลของกรรม และทุกสิ่งทุกอย่างเกิดดับตามเหตุปัจจัยจริงๆ ไม่ยกเว้นอะไรทั้งสิ้น จะทำให้ลดการสนใจเรื่องราวที่ไม่สามารถทำให้เข้าใจพระธรรม ซึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงต้องบำเพ็ญพระบารมีถึง ๔ อสงไขยแสนกัป จึงทรงตรัสรู้ความจริง ที่ไม่มีใครสามารถรู้เองได้ นอกจากค่อยๆ อบรมเจริญปัญญา เพื่อรู้ถูกเข้าใจถูก สิ่งที่มีจริง ตามที่ทรงตรัสรู้



ความคิดเห็น 1    โดย ไตรสรณคมน์  วันที่ 31 พ.ค. 2550

โรงละครของโลก

เมื่อลืมตาตื่นขึ้น เราเห็นโรงละครของโลกทางตามีอารมณ์เป็นตัวละคร แล้วก็กลับเข้าโรง นั่นคือการกลับเป็นภวังค์แล้วตัวละครหรืออารมณ์อื่นก็ออกมา สลับกันอย่างนี้เรื่อยไป เมื่อเราหลับตาลง โรงละครอย่างนี้จะไม่มีปรากฎ นั่นคือขณะที่เป็นภวังค์ เมื่อพิจารณาอย่างนี้ เราจะละหรือจะติดในตัวละครนั้น นี่คือโลกทางตา ส่วนทางอื่นก็โดยนัยเดียวกัน

ธรรมเตือนใจ : วันที่ 05- 06- 2547


ความคิดเห็น 2    โดย แล้วเจอกัน  วันที่ 31 พ.ค. 2550

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

เรื่อง สาระของชีวิต

เรื่องสิ่งที่เป็นสาระและไม่เป็นสาระ

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๑ - หน้าที่153

ข้อความบางตอนจาก เรื่องสญชัย

"ชนเหล่าใด มีปกติรู้ในสิ่งที่ไม่เป็นสาระว่าเป็น สาระ และเห็นในสิ่งอันเป็นสาระว่า ไม่เป็นสาระ ชนเหล่านั้น มีความดำริผิดเป็นโคจร ย่อมไม่ประสพสิ่งอันเป็นสาระ. ชนเหล่าใด รู้สิ่งเป็นสาระ โดยความเป็นสาระ และสิ่งไม่เป็นสาระโดยความไม่เป็นสาระ ชนเหล่านั้น มีความดำริชอบเป็นโคจร ย่อมประสพสิ่งเป็นสาระ."


ความคิดเห็น 3    โดย แล้วเจอกัน  วันที่ 31 พ.ค. 2550

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

เรื่อง ความคิดที่เป็นสาระ พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๒ - หน้าที่ 463

ข้อความบางตอนจาก จินตสูตร

[๑๗๒๗] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็เมื่อเธอทั้งหลายจะคิด พึงคิดว่านี้ทุกข์ ฯลฯ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะความคิดนั้นประกอบด้วยประโยชน์ เป็นพรหมจรรย์เบื้องต้น ย่อมเป็นไปเพื่อความหน่าย ... เพื่อนิพพาน ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะฉะนั้นแหละ เธอทั้งหลาย พึงกระทำความเพียรเพื่อรู้ตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ ฯลฯ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา.


ความคิดเห็น 4    โดย แล้วเจอกัน  วันที่ 31 พ.ค. 2550

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย เรื่อง สัตว์โลกย่อมน้อมไปในสิ่งที่ไม่เป็นสาระ พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ เล่ม ๒ ภาค ๒ - หน้าที่ 16 ข้อความบางตอนจาก อรรถกถา ฆฏิการสูตร

บทว่า เอวสมฺม ความว่า แม้ในปัจจุบันนี้ พวกมนุษย์ มีใครชวนว่า พวกเราไปไหว้พระเจดีย์ ไปฟังธรรมกันเถอะ จะไม่กระทำความอุตสาหะ แต่ใครๆ ชวนว่าพวกเราไปดูฟ้อนรำขับร้องเป็นต้น กันเถอะ ดังนี้ จะรับคำด้วยการชักชวนเพียงครั้งเดียวฉันใด


ความคิดเห็น 5    โดย แล้วเจอกัน  วันที่ 31 พ.ค. 2550

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

เรื่อง อย่าล่วงเลยขณะที่เป็นสาระ

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต เล่ม ๔ - หน้าที่ 453

ข้อความบางตอนจกา อักขณสูตร

การที่พระตถาคตเจ้าเสด็จอุบัติขึ้นในโลก ๑ การได้กำเนิดเป็นมนุษย์ ๑ การแสดงสัทธรรม ๑ ที่จะพร้อมกันเข้าได้ หาได้ยากใน โลกชนผู้ใคร่ประโยชน์ จึงควรพยายามในกาล ดังกล่าวมานั้น ที่ตนพอจะรู้จะเข้าใจสัทธรรมได้ ขณะอย่าล่วงเลยท่านทั้งหลายไปเสีย เพราะบุคคลที่ปล่อยเวลาให้ล่วงไปพากันยัดเยียดในนรก ก็ย่อมเศร้าโศก


ความคิดเห็น 6    โดย อิสระ  วันที่ 1 มิ.ย. 2550

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 7    โดย wannee.s  วันที่ 1 มิ.ย. 2550

ในวันหนึ่งเราได้ฟังธรรมสักกี่นาที แล้วที่ไม่ได้ฟังธรรมแต่เป็นเรื่องอื่นๆ มากมายเกือบตลอดทั้งวันเป็นอวิชชา เมื่อสะสมอวิชชามากมาย แล้วสติจะเกิดได้อย่างไร เพราะฉะนั้น เราต้องฟังมาก พิจารณามาก เพราะว่าอาหารของสติก็คือ การฟังธรรมให้เข้าใจ และการเจริญกุศลทุกประการค่ะ


ความคิดเห็น 8    โดย Anutta  วันที่ 1 มิ.ย. 2550

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 9    โดย jirasak0143  วันที่ 1 มิ.ย. 2550

โลกเหมือนป่าครับ มีทั้งพืชที่เป็นพิษ สัตว์ร้ายก็มาก ถ้าก้าวเข้าไป ก็เหมือนหุบเหว ยากที่จะไต่ขึ้นจากเหวนั้นครับ


ความคิดเห็น 10    โดย ปุถุชนคนหนึ่ง  วันที่ 1 มิ.ย. 2550

สัตว์ดีๆ ก็มี ดอกไม้สวยๆ ก็มาก แล้วแต่ว่าวิบากกรรมจะนำไปเจออะไร


ความคิดเห็น 11    โดย Sam  วันที่ 1 มิ.ย. 2550

ขออนุโมทนา


ความคิดเห็น 12    โดย yu_da2554hotmail  วันที่ 6 มี.ค. 2567

ยินดีในกุศลจิตค่ะ