[เล่มที่ 34] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้าที่ 199
๓. ปัจจยวัตตสูตร
ว่าด้วยประโยชน์ ๓ ที่ผู้แสดงธรรมสมควรพิจารณา
[๔๘๒] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อเห็นอำนาจประโยชน์ ๓ก็ควรเทียวที่จะแสดงธรรมแก่คนอื่น ประโยชน์ คืออะไร คือผู้ใดแสดงธรรม ผู้นั้นย่อมเป็นผู้ได้รสอรรถได้รสธรรมผู้ใดฟังธรรม ผู้นั้นย่อมเป็นผู้ได้รสอรรถได้รสธรรม
ผู้แสดงธรรมและผู้ฟังธรรม ย่อมเป็นผู้ได้รสอรรถได้รสธรรมด้วยกันทั้งสองฝ่าย ภิกษุทั้งหลายเมื่อเห็นอำนาจประโยชน์ ๓ นี้แลควรเทียวที่จะแสดงธรรมแก่คนอื่น.
จบปัจจยวัตตสูตรที ๓
1. ผู้แสดงธรรม ย่อมเป็นผู้ได้รสอรรถรสธรรม
2. ผู้ฟังธรรม ย่อมเป็นผู้ได้รสอรรถรสธรรม
3. ผู้แสดงธรรมและผู้ฟังธรรม ย่อมเป็นผู้ได้รสอรรถรสธรรม
... ภิกษุควรแสดงธรรมแก่คนอื่น ...
"สัพพทานัง ธัมมทานัง ชินาติ"ขออนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
[เล่มที่ 34] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้าที่ 200
๔. ปเรสสูตร
ว่าด้วยเหตุให้เกิดการเจรจาธรรม
[๔๘๓] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย (ธรรม) กถา ย่อมเป็นไปได้ด้วย สถาน ๓ สถาน ๓ คืออะไร คือ ผู้ใดแสดงธรรม ผู้นั้นย่อมเป็นผู้ได้รสอรรถ ได้รสธรรม ผู้ใดฟังธรรม ผู้นั้นย่อมเป็นผู้ได้รสอรรถ ได้รสธรรม ผู้ แสดงธรรมและผู้ฟังธรรม ย่อมเป็นผู้ได้รสอรรถได้รสธรรมด้วยกันทั้งสองฝ่าย ภิกษุทั้งหลาย (ธรรม) กถา ย่อมเป็นไปได้ด้วยสถาน ๓ นี้แล.
จบปเรสสูตรที่ ๔
ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
การอุบัติขึ้นของพระพุทธเจ้าหาได้ยากในโลก คนที่แสดงธรรมของพระพุทธเจ้าหายาก การแทงตลอดพระสัทธรรมเป็นของยาก
ขออนุโมทนาครับ
สาธุ
ขออนุโมทนาครับ