เรียน อาจารย์ทั้งสองท่าน
"วันหนึ่งๆ มีจิตเกิดดับ ๓๘ ดวง" พจนาท่านอาจารย์ในแนวทางการเจริญวิปัสสนา ครั้งที่ 1487-91 กระผมลองนับตามท่านอาจารย์ มีอเหตุกจิต ๑๗ อกุศลจิต ๑๒ ที่เหลือเป็นอย่างไรครับ ขอความอนุเคราะห์อาจารย์ด้วยครับ
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ประโยชน์ไม่ได้อยู่ที่การนับ แต่อยู่ที่ความเข้าใจถูกเห็นถูกว่า จิต คือ อะไร? เป็นธรรมที่มีจริงๆ หรือไม่ เป็นเรา หรือว่าเป็นธรรม เพราะตามความเป็นจริงแล้วชีวิตประจำวันไม่เคยขาดจิตเลย จิต คือ สภาพธรรมที่เป็นใหญ่เป็นประธานในการรู้แจ้งอารมณ์ จิตขณะหนึ่งเกิดแล้วดับไปเป็นปัจจัยให้จิตขณะต่อไปเกิดสืบต่อโดยไม่มีระหว่างคั่น ถ้าจะกล่าวโดยประมวลแล้วก็คือ ไม่พ้นไปจากจิตที่เกิดขึ้นโดยอาศัยทวารหนึ่งทวารใดในการรู้แจ้งอารมณ์ (ที่เป็นวิถีจิต) สลับกับ ภวังคจิต จิตที่เกิดขึ้นไม่ต้องอาศัยทวารหนึ่งทวารใดในการรู้แจ้งอารมณ์ ทำกิจดำรงรักษาความเป็นบุคคลนี้ไว้เพราะปฏิสนธิจิตเกิดขณะแรกในภพนี้ชาตินี้ ส่วนจุติจิตยังไม่เกิดขึ้น ดังนั้นชีวิตประจำวันจึงมี วิถีจิต สลับกับ ภวังคจิต
สำหรับผู้ที่เกิดมาเป็นมนุษย์ ไม่พิการบ้าใบ้บอดหนวก ชีวิตประจำวันพอจะเข้าใจได้ไหมว่า มีจิตประเภทใดบ้างที่เกิดขึ้นเป็นไป เท่าที่จะเข้าใจได้ เป็นที่แน่นอน มีเห็นมีได้ยิน มีได้กลิ่น มีลิ้มรส มีการรู้สิ่งที่กระทบสัมผัส ที่เป็นกุศลวิบากบ้าง อกุศลวิบากบ้าง มีจิตเกิดก่อนจิตเหล่านี้ และมีจิตที่เกิดหลังจิตเหล่านี้ ตามความเป็นไปของวิถีจิต กุศลจิต มีไหม อกุศลจิต มีไหม ก็มี เกิดขึ้นเป็นไปตามการสะสมของแต่ละบุคคล จิตในระดับที่เป็นฌาน และเป็นโลกุตตระ ไม่มีอย่างแน่นอน มหากิริยาจิต ก็ไม่มี สำหรับจิตชาติกิริยา ที่เป็นอเหตุกจิต คือ จิตแย้มยิ้มของพระอรหันต์ ก็ไม่มีอย่างแน่นอนในบุคคลผู้ไม่ใช่พระอรหันต์
ก็ค่อยๆ ฟัง ค่อยๆ ไตร่ตรองไป เข้าใจเท่าที่จะเข้าใจได้ เพราะจิตก็เป็นสภาพธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น เมื่อเป็นธรรมก็ไม่ใช่เรา ไม่ใช่สัตว์บุคคล ตัวตน ต้องไม่ลืมจริงๆ ว่า ไม่ว่าจะได้ฟังเรื่องอะไรก็ตามก็คือ เพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกว่า เป็นธรรม ไม่ใช่เรา ครับ
ข้อความบางตอนจากคำบรรยายของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ชุดแนวทางเจริญวิปัสสนา ครั้งที่ ๑๔๘๗ มีดังนี้ ครับ
สำหรับชีวิตในวันหนึ่งๆ เมื่อศึกษาเรื่องของจิต ก็จะรู้ได้ว่า โดยทั่วไปของแต่ละบุคคลที่จะพ้นจากจิต ๓๘ ดวง ไม่มีเลย ซึ่งก็ไม่ยากต่อการที่จะจำจิต ๓๘ ดวง คือ อกุศลจิต ๑๒ ดวง ได้แก่ โลภมูลจิต ๘ ดวง โทสมูลจิต ๒ ดวง โมหมูลจิต ๒ ดวง
สำหรับอกุศลจิต ๑๒ ดวง ผู้ที่ไม่ใช่พระอริยบุคคลยังมีครบ เพราะฉะนั้น แต่ละบุคคลก็ทราบได้ว่า ท่านมีอกุศลจิตครบทั้ง ๑๒ ดวงไหม ถ้ายังไม่ใช่พระอริยบุคคล ต้องครบทั้ง ๑๒ ดวง
สำหรับอเหตุกจิตที่เกิดขึ้นเป็นไปในชีวิตประจำวัน มี ๑๗ ดวง เพราะเหตุว่า เฉพาะพระอรหันต์เท่านั้นที่มีอเหตุกจิตครบทั้ง ๑๘ ดวง อเหตุกจิตทั้งหมดมี ๑๘ ดวง ผู้ที่ไม่ใช่พระอรหันต์จะมีอเหตุกจิต ๑๗ ดวง เฉพาะพระอรหันต์เท่านั้นที่มีอเหตุกจิตครบทั้ง ๑๘ ดวง
และนอกจากนั้นในชีวิตประจำวัน นอกจากอกุศลจิต ๑๒ ดวง และอเหตุกจิต ๑๗ ดวง ก็ยังมีมหากุศลจิต ๘ ดวง ซึ่งเป็นไปในทานบ้าง ในศีลบ้าง ในการอบรมเจริญความสงบของจิต และในการอบรมเจริญสติปัฏฐานบ้าง ซึ่งเฉพาะสำหรับพระอรหันต์เท่านั้นที่ไม่มีมหากุศลจิต ๘ ดวง แต่มีมหากิริยา ๘ ดวง
ทั้งหมด อกุศลจิต ๑๒ ดวง อเหตุกจิต ๑๗ ดวง มหากุศลจิต ๘ ดวง ก็รวมเป็นจิต ๓๗ ดวง แต่ว่ายังมีมหาวิบากอีก ๑ ดวง ซึ่งเกิดเป็นปกติในชีวิตประจำวัน สำหรับผู้ที่ไม่พิการแต่กำเนิด มหาวิบากเป็นผลของมหากุศล เมื่อมหากุศลมี ๘ ดวง มหาวิบากก็มี ๘ ดวง ผลของกุศลก็ต้องมี ๘ ดวง แต่ว่าในบุคคลหนึ่งๆ ตามธรรมดาแล้ว ถ้าไม่กล่าวถึงตทาลัมพนจิต เพราะเหตุว่าแยกตามแต่ละบุคคลไปอีก ถ้าจะกล่าวโดยทั่วๆ ไป แต่ละคนที่เกิดมา ก็เป็นผลของกุศลกรรมหนึ่ง เพราะฉะนั้น ก็เป็นมหาวิบากดวงหนึ่งใน ๘ ดวง
เพราะฉะนั้น ในกามาวจรจิต ๕๔ ดวง จิตที่เกิดขึ้นเป็นไปโดยปกติก็มีประมาณ ๓๘ดวง ที่จะมากน้อยเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย ก็สำหรับแต่ละบุคคล เมื่อกระทำตทาลัมพนกิจ เพราะฉะนั้น ก็ควรที่จะได้รู้กิจของกามาวจรจิต ซึ่งเกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน โดยประมาณ คือ ๓๘ ดวงนี้ว่า แต่ละประเภททำกิจอะไร ไม่มีสัตว์ ไม่มีบุคคล ไม่มีตัวตน ถอดความเป็นสัตว์ เป็นบุคคล เป็นตัวตนออกหมด ก็เป็นแต่เพียงจิต เจตสิก รูป ซึ่งเกิดดับสืบต่อกันไม่ขาดสาย.
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ที่เหลือเป็น มหากุศลจิต ๘ และ มหาวิบากจิต ๘ ดวงใดดวงหนึ่งใน ๘ ดวงที่ทำปฏิสนธิ ค่ะ
ขอขอบพระคุณและอนุโมทนาค่ะ
หากสิ่งใดไม่เกิดประโยชน์ต่อผู้ฟังแล้ว พระผู้มีพระภาคจะไม่ทรงแสดง และกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์สุจินต์ และท่านวิทยากรทั้งหลายที่ได้บรรยาย
เข้าใจขึ้นอีกเล็กน้อย...
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาคะ^ ^
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
จิต กับเจตสิก อันเดียวกันไหม
ขอเชิญคลิกอ่าน....
จิตปรมัตถ์
เจตสิกปรมัตถ์
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ