ไปสนทนาธรรมนอกโรงแรม
4/01/2558
วันนี้ คุณดึ๊กไอค์ (ทำนองนี้) เชิญท่านอาจารย์และสหายธรรม ไปสนทนาธรรมที่เพนท์เฮาส์ ในเขต 7 ที่เป็นย่านเมืองใหม่ บ้านท่านเป็นคอนโดมิเนียมหรูอยู่ชั้น 22 เป็นศูนย์ปฏิบัติสมาธิ ด้วย
เห็นคุณดึ๊กแล้วอดทึ่งไม่ได้ ที่ยังหนุ่ม หน้าตาหล่อ ฐานะดี ที่สำคัญ มีศรัทธา ในการศึกษา ธรรมะด้วย ได้มาร่วมสนทนาตั้งแต่ปีก่อน แล้วติดตามฟังธรรมจากคุณเติ้มเรื่อยมา มาปีนี้ ขอเป็นเจ้าภาพจัดสนทนาธรรม และ เลี้ยงอาหารกลางวันทุกคน ที่เพนท์เฮาส์ชั้น 22 ในย่าน คนรวยของไซ่ง่อน
มีผู้ร่วมฟังเดิมหลายคน รวมทั้งคนใหม่ๆ ที่คงเป็นญาติพี่น้อง เพื่อนของคุณดึ๊ก มีหลายคน หน้าตาผิวพรรณดีมาก มีภิกษุและนักบวชหญิงด้วย มีคำถามถึงวิธีควบคุมอารมณ์ ท่านอาจารย์บอกว่าไม่มี นอกจากฟังให้เข้าใจ เธอถามต่อว่า จะตัดกรรมอย่างไร ท่าน อาจารย์ถามกลับว่ากรรมคืออะไร เป็นสภาพธรรมอะไร เธอหงุดหงิดมาก บอกว่า ที่มาวันนี้ เพราะจะถามถึงวิธี เมื่อไม่มีวิธี ก็ไม่น่าสนใจ เพราะเธอจะได้ตอบคำถามของคนที่มาวัดได้
สาวน้อยสวยสะดุดตา ผิวขาวใสพูดภาษาเวียดนามพร้อมกับร้องไห้ เดาเอาว่าเธอคงปลื้ม ปีติที่ได้ฟังธรรม แล้วเธอคำพูดตัวเองเป็นภาษาอังกฤษว่า ท่านอาจารย์บอกว่า มีแต่ธรรมะที่ เกิดปรากฏ ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ทุกอย่างเกิดดับ ไม่เที่ยง เป็นอนัตตา นี่คือความจริงของชีวิต เธอบอกว่ารับไม่ได้ เพราะเธอรู้สึกว่าโชคดีที่ได้เกิดเป็นคนนี้ (สมควร คิดอย่างนั้นเพราะสวยมาก ท่าทางเป็นคุณหนูไฮโซ) แต่เมื่อได้ฟังอาจารย์พูดอย่างนี้ ก็แสดง ว่าพ่อแม่ไม่มีจริงคนที่เธอรักก็ไม่จริงด้วย รู้สึก ใจหาย รับไม่ได้ จนต้องร้องไห้ออกมา เพราะ เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้
ท่านอาจารย์ตอบว่า เพราะไม่รู้และเพราะติดข้อง ต้องค่อยๆ ศึกษาธรรมะให้เข้าใจความ จริงมากขึ้น
จบการสนทนาเวลา 11:30 เจ้าภาพมอบของที่ระลึกให้ท่านอาจารย์และวิทยากร แล้วเลี้ยง อาหารกลางวัน ถ่ายภาพร่วมกันเป็นที่ระลึก แล้วนั่งรถกลับโรงแรม
วันนี้น้องซุง (จันทนา ส่องแสงจินดา มหาอุบาสิกาผู้มีศรัทธาบริจาคค่าสถานีวิทยุมานานปี) พร้อมกับน้องติ๋ม เพื่อนคู่หู เดินทางกลับก่อนเพราะต้องไปทำงาน ทิ้งให้พี่ๆ ป้าๆ ยายๆ อยู่กัน ต่อไป ก่อนจากไปน้องซุงยังได้บริจาคเงิน 100 ยูเอสดอลลาร์ ช่วยค่าห้องประชุมที่แพงมาก วันละ 300 ดอลลาร์ ขออนุโมทนาน้องซุง ผู้กล้าที่ต่อสู้กับความตระหนี่จนชนะ สามารถสละได้ ค่ะ (พี่ยังสู้กับความตระหนี่ไม่ได้เลย เริ่มสู้กันทีไร แพ้ทุกที) จะเห็นได้ว่า สละทรัพย์ที่อยู่นอกกาย ยังยากขนาดนี้ แล้วสละความติดข้องเพลิดเพลินจะยากกว่านี้ขนาดไหน จะต้องอาศัยปัญญา ที่คมกล้าอย่างยิ่งที่ต้องเริ่มสะสมด้วยการฟังธรรมด้วยดี และพิจารณาด้วยความแยบคาย
... อ่านตอนต่อไป ...
สนทนาธรรมข้ามปีที่ไซ่ง่อน 9
... อ่านย้อนหลัง ...
สนทนาธรรมข้ามปีที่ไซ่ง่อน 7
สนทนาธรรมข้ามปีที่ไซ่ง่อน 6
สนทนาธรรมข้ามปีที่ไซ่ง่อน 5
สนทนาธรรมข้ามปีที่ไซ่ง่อน 4
สนทนาธรรมข้ามปีที่ไซ่ง่อน 3
สนทนาธรรมข้ามปีที่ไซ่ง่อน 2
สนทนาธรรมข้ามปีที่ไซ่ง่อน 1
ขอขอบพระคุณและอนุโมทนาค่ะ
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
ขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของพี่แดงและ อาจารย์สงบ และขออนุโมทนาในกุศลจิต
ของสหายธรรมที่มีเมตตาจิตต่อกันตลอดในทริปการฟังธรรมที่ไซ่ง่อนนี้
สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง
ถ้าไม่ได้ฟังธรรมก็จะไม่มีวันที่จะได้เข้าใจเลยว่า ไม่มีเราที่จะไปจะควบคุมอารมณ์ได้เลย
เพราะความรวดเร็วของจิตที่เกิดดับ การที่จะน้อมไปในทางกุศลหรืออกุศลก็ไม่ใช่เรา
เกิดแล้วจะเปลี่ยนให้อกุศลจิตเป็นกุศลจิตก็ไม่ได้ แต่ที่รู้ได้คือไม่ใช่เรา เป็นเพียงแต่สภาพธรรม
กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์พร่ำสอนอยู่เนืองๆ ให้ศิษย์ "ฟังไว้ๆ "ค่ะ แม้อกุศลจิตยังมาก
แต่เมื่อมีโอกาสฟังพระธรรมก็นับเป็นบุญอย่างยิ่งค่ะ ขออนุโมทนากัลยาณมิตรคือ
คุณพ่อสงบและคุณแม่แดงด้วยค่ะ และขอกราบอนุโมทนาเจ้าภาพชาวเวียดนามและพี่ซุง
ด้วยค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาบุญกับทุกๆ ท่านค่ะ
วันนี้กระผมก็ได้มีโอกาศติดตามท่านอาจารย์ สุจินต์ บริหารวนเขตต์ และคณะ ไปฟังสนทนา-
ธรรมนอกสถานที่ ตามที่คุณแดงได้เขียนไว้ข้างบน (ครั้งที่8) สถานที่เป็น Codominuimใหม่
มีตึกสูงๆ มากมายขึ้นอยู่รอบๆ ตอนขาขึ้นลิฟต์ไปข้างบน ในลิฟต์มีทั้งหมดประมาณ 12 คน
พอลิฟต์เคลื่อนขึ้นถึงชั้นที่ 6 ลิฟต์ก็หยุดอยู่กับที่ ตอนแรกกระผมคิดว่าถึงแล้ว แต่ประตูก็ไม่
เปิด ลิฟต์หยุดที่ชั้น 6 อยู่ประมาณ 30 วินาที ก็เลื่อนลงช้าๆ จากนั้นก็หยุดอยู่ที่ชั้น 5 แล้วก็
หยุดอีก 30วินาที แล้วก็เลื่อนลงสู่ชั้น 4 เป็นไปเช่นนี้จนถึงชั้น G (ชั้นใต้ดิน) คราวนี้ประตูเปิด
มีคนออกมา เพื่อให้ลิฟต์ไม่ต้องแบกนำ้หนักมากในการขึ้น (ภาระ) ทุกคนปลอดภัย
บรรยากาศในCondoคึกคักมากมายไปด้วยผู้คนประมาณ 60-70 คนที่มาร่วมสนทนาธรรม
สหายธรรมชาวเวียตนามให้การต้อนรับท่านอาจารย์และคณะที่เดินทางร่วมไปด้วย เป็นการ
ต้อนรับอย่างดีมาก ผู้ที่มาร่วมสนทนาในกลุ่มของชาวเวียตนามก็ยังเป็นกลุ่มของคนรุ่นหนุ่ม
รุ่นสาวที่พยายามจะแสวงหาความจริงของสิ่งที่มีจริง (ธัมมะ) หลายคนที่นั่งฟังก็ยังนั่งสมาธิ
อยู่...
จบการสนทนารอบเช้าที่ Condo รอบบ่ายกลับมาสนทนาในห้องสนทนาที่โรงแรม ซึ่งห้อง
สนทนาธรรมมีที่นั่งประมาณ 120 ที่ ก็เต็มไปด้วยผู้สนใจศึกษาธรรมชาวเวียดนาม สหาย-
ธรรมคนไทยที่ไปจากกรุงเทพก็สละสิทธิ์ให้ชาวเวียตนามได้นั่งฟัง ก็ขออนุโมทนาด้วยครับ
การสนใจศึกษาธรรมในรอบบ่ายนี้ ผู้ที่นั่งฟังเป็นผู้ที่สนใจจริงๆ เขาตั้งใจฟังด้วยดี ทั้งๆ ที่
หลายคนเดี๋ยวนี้ก็ยังนั่งสมาธิอยู่ เขาก็นั่งฟังด้วยความใส่ใจ ใครกล้าถามก็ถาม ส่วนคนที่
ไม่ถามเขาก็ฟัง แล้วบางคนก็จดตามไปด้วย ไม่มีการพูดคุยกัน ความจริงจังของการศึกษา
เป็นนิสัยที่ดีของชาวเวียตนามรุ่นใหม่ไปแล้ว คนเหล่านี้นี่แหละที่จะทำและนำศาสนาไปสู่
ความรุ่งเรืองอีกครั้งหนึ่ง พวกเขาให้ความสำคัญและให้ความเคารพท่านอาจารย์และคณะ
อาจารย์วิทยากรมาก ตั้งใจศึกษาจริงๆ เป็นธัมมะที่ประเสริฐและหาฟังได้ยากสำหรับเขา
การสนทนาธรรมภาคบ่ายมีคำถามน้อยกว่าวันแรกๆ เพราะส่วนหนึ่งของการสนทนาก็คือ
รูป (28รูป) ซึ่งรูปที่เขารู้มาจะต่างกับสิ่งที่ท่านอาจาร์กำลังสอนอย่างไร?
ก็ขอร่วมส่งข้อความแค่นี้นะครับ ขาด ตก บก พร่อง ก็ขออภัยด้วยครับ
ปริญญา
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
อนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนา
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ