พระสงฆ์ที่ดูแลพระอาพาธ ทานอาหารมื้อเย็นได้หรือไม่ พระวินัยมีข้อยกเว้นหรือไม่
เพศพระภิกษุ เป็นเพศของการขัดเกลากิเลสโดยประการต่างๆ อย่างยิ่ง ต่างจากเพศคฤหัสถ์อย่างสิ้นเชิง ราวฟ้ากับดิน เพราะฉะนั้นการกระทำของคฤหัสถ์ ผู้ครองเรือน จึงไม่สมควรกับเพศบรรพชิต ครับ แม้แต่การประพฤติพรหมจรรย์ในพระธรรมวินัย โดยการออกบวชเป็นเพศบรรพชิตแล้ว ก็ต้องมีธรรมที่เป็นเครื่องขัดเกลากิเลสตามที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติสิกขาบทไว้เพื่อขัดเกลากิเลสของพระภิกษุเอง และเพื่อความเจริญขึ้นของกุศลธรรมประการต่างๆ สิกขาบทที่พระองค์ทรงบัญญัติไว้ในเรื่องการฉันอาหารในเวลาวิกาล คือ พระภิกษุไม่พึงฉันอาหารในเวลาวิกาล คือ เลยเที่ยง หากฉันอาหารหลังจากเที่ยงไปแล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์ สิ่งที่ฉันหลังเที่ยงได้ ไม่ใช่อาหาร นม แต่เป็นน้ำปานะเท่านั้นครับ ดังนั้น การไม่ฉันหลังเที่ยงแม้จะหิวมากเท่ากับรักษาพระวินัย ไม่เป็นอาบัติในข้อนั้น แต่ทำให้เจริญขึ้นในศีลและคุณธรรมครับ ซึ่ง ถ้าท่านป่วย ก็ฉันเภสัช มีน้ำผึ้ง เนยใส เป็นต้น หลังเที่ยงได้ ที่ช่วยรักษาโรคได้ แต่ไม่ใช่เพื่อแก้หิวครับ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ถ้าฉันอาหารในเวลาวิกาล คือ หลังเที่ยง เป็นอาบัติสำหรับภิกษุ ไม่มีข้อยกเว้น ตามความเป็นจริงแล้ว บุคคลผู้ที่จะบวชจะต้องเป็นผู้ที่มีอัธยาศัยน้อมไปในการบวชจริงๆ รู้จักตนเองและพิจารณาตนเองโดยละเอียด ว่า สามารถที่จะดำรงเพศที่มีคุณธรรมสูงกว่าคฤหัสถ์ได้หรือไม่? เพศบรรพชิตเป็นเพศที่สูงกว่าคฤหัสถ์เป็นอย่างยิ่ง ที่สูงกว่า นั้น สูงเพราะคุณธรรม เนื่องจากว่าผู้ที่เป็นบรรพชิต จะต้องมีความมั่นคง ที่จะสละกิเลสทุกอย่างทุกประการ มากกว่าผู้ที่เป็นคฤหัสถ์ พร้อมกัน ก็จะต้องเป็นผู้มีความอดทน มีความเพียรที่จะศึกษาพระธรรมวินัยให้เข้าใจอย่างถูกต้อง น้อมประพฤติในส่วนที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงอนุญาต และงดเว้นจากสิ่งที่พระองค์ทรงห้าม โดยประการทั้งปวง และสำหรับคฤหัสถ์ก็จะต้องมีความเข้าใจด้วยว่าอะไรที่จะเป็นเหตุให้พระภิกษุต้องอาบัติ ก็ไม่ควรทำ ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
สาธุ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ