ขอเรียนถามท่านอาจารย์ครับ ผมได้ฟังเรื่องสัญญาขันธ์ ว่า ขณะที่รู้ว่าสิ่งที่เห็นคืออะไรขณะนั้นคือ สภาพที่จำ ผมจึงอยากทราบว่า ผู้ที่มีความเห็นผิดหนาแน่น เพราะเกิดจากการเข้าไปรับรู้เรื่องราวที่เห็นผิดบ่อยๆ และจำได้ ใช่หรือไม่ครับ หากต้องได้ยินคนที่กล่าวธรรมะผิดบ่อยๆ แม้จะยังไม่เห็นด้วย แต่ว่าจำได้ทุกครั้ง มีสิทธิ์จะโน้มเอียงเพราะเหตุที่จำได้หรือไม่ครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สัญญาเจตสิก เป็นสภาพธรรมที่จำ ซึ่งขณะที่จิตเกิดขึ้น รู้อารมณ์หนึ่งอารมณ์ใดสัญญาเจตสิกเกิดขึ้น จำในอารมณ์นั้น เพียงแต่จะจำด้วยจิตที่เป็นอกุศล จำด้วยความเห็นผิด จำด้วยความเป็นเรา หรือจำด้วยกุศลจิต จำพร้อมกับปัญญา ความเข้าใจถูก ก็ตามแต่ประเภทของจิต และเจตสิกที่เกิดร่วมด้วย ครับ
ส่วนการเกิดความเห็นผิดก็มีเหตุจากการฟัง อ่าน ศึกษาในสิ่งที่ผิด เพราะได้ยินอ่านในสิ่งที่ผิด สัญญา ความจำ ก็จำผิด คือ จำในสิ่งที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงและมีความเห็นผิดเกิดขึ้นร่วมกับสัญญาในขณะนั้น และ เมื่อเสพคุ้นความเห็นผิดบ่อยๆ ก็เกิดความจำ และ ทิฏฐิ ความเห็นผิดบ่อยๆ ก็ทำให้เป็นผู้ที่มากไปด้วยความเห็นผิด ครับ
พระธรรมเทศนาเตือนสติสำหรับผู้ที่ได้ยินได้ฟังอย่างแท้จริงเพื่อประโยชน์ของผู้นั้นแต่ว่าจิตใจของคนเป็นไปตามการสะสม สะสมมาไม่เหมือนกัน แม้ว่าจะได้ฟังพระธรรมที่พระองค์ตรัส แต่เพราะกิเลสที่สะสมหมักหมมอยู่ในจิตมาอย่างเนิ่นนานนี้เอง ทำให้ไม่มีความเลื่อมใส ไม่เกิดศรัทธาที่จะน้อมรับฟังด้วยดี ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากิเลสมีกำลังที่รุนแรงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ ความเห็นผิด (มิจฉาทิฏฐิ) ถ้ามีความเห็นผิดแล้ววาจาก็ผิด การกระทำทางกายก็ผิด ทุกอย่างย่อมผิดไปหมด
ความเห็นผิดจึงเป็นอันตรายมาก ถ้าความเห็นของแต่ละบุคคลคลาดเคลื่อนไป ผิดไป ไม่ตรงกับความเป็นจริง ทุกอย่างก็จะผิดไปด้วย โดยที่สิ่งที่ผิดก็จะเห็นว่าถูก สิ่งที่ถูกก็จะเห็นว่าผิด นี่แหละคือความเห็นผิดซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่ง เป็นเหตุให้กระทำอกุศลกรรมประการต่างๆ มากมาย เป็นไปเพื่อความเสื่อมจากกุศลธรรมทั้งหลายโดยประการทั้งปวง ไม่เป็นประโยชน์ใดๆ เลยทั้งแก่ตนและแก่ผู้อื่น
การมีโอกาสได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม มีประโยชน์อย่างยิ่ง ขณะที่ฟังแล้วเข้าใจ ขณะนั้นกุศลธรรมเจริญขึ้น ศรัทธา ปัญญา เป็นต้น เกิดขึ้นเป็นการขัดเกลาละคลายความเห็นผิด รวมถึงอกุศลธรรมประการอื่นๆ ด้วย ขณะที่กุศลธรรมเกิด อกุศลธรรมจะเกิดร่วมด้วยไม่ได้ และความเห็นผิดจะถูกดับได้อย่างเด็ดขาดเมื่ออบรมเจริญปัญญาถึงความเป็นพระโสดาบัน เมื่อนั้นความเห็นผิดจะไม่เกิดขึ้นอีกเลยในสังสารวัฏฏ์ ซึ่งจะต้องเริ่มสะสมอบรมความเข้าใจถูกเห็นถูก ตั้งแต่ในขณะนี้ ครับ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เหตุให้เกิดความเห็นผิด ก็คือ ฟังแต่อสัทธรรม ได้แก่ฟังในสิ่งที่ไม่ใช่คำสอนที่เกิดจากการตรัสรู้ ซึ่งเป็นคำของบุคคลอื่นที่ไม่รู้ความจริง เมื่อเสพคุ้นกับสิ่งเหล่านี้มากๆ ก็จำในความเห็นผิดนั้นนั้น คล้อยตามความเห็นที่ผิดนั้น สภาพธรรมที่เกิดขึ้นเป็นอกุศลผิดทั้งหมดเมื่อเป็นอกุศล จะเป็นสิ่งที่ถูกต้องไม่ได้เลย
เมื่อกล่าวถึงความเห็นแล้ว เป็นธรรมที่มีจริง ถ้าเห็นถูกเข้าใจถูก เป็นปัญญาหรือสัมมาทิฏฐิ เป็นเหตุให้กุศลธรรมทั้งหลายเจริญขึ้น อกุศลธรรมเสื่อมไป แต่ถ้าเป็นความเห็นผิดแล้วไม่ใช่สัมมาทิฏฐิ แต่เป็นมิจฉาทิฏฐิ อกุศลธรรมทั้งหลายมีแต่จะเพิ่มพูนมากยิ่งขึ้นสืบเนื่องมาจากความเห็นผิดนั้น ดังนั้นเรื่องของความเห็นจึงมี ๒ ประเภทดังที่กล่าวมา ถ้ามีความเห็นถูก กาย วาจา ใจ ย่อมเป็นไปในทางที่ถูกด้วย ก็จะเป็นหนทางนำไปสู่สุคติ คือมนุษย์ภูมิและสวรรค์ และสามารถทำให้รู้แจ้งอริยสัจจธรรมดับกิเลสตามลำดับขั้นด้วย แต่ถ้ามีความเห็นผิด กาย วาจา และใจย่อมเป็นไปในทางที่ผิดทุกอย่างผิดไปหมด ผลที่จะเกิดขึ้น คือ เป็นเหตุให้เข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก อันเป็นผลที่เผ็ดร้อน ไม่น่าปรารถนา ไม่น่าใคร่ไม่น่าพอใจเป็นอย่างยิ่ง
การที่จะค่อยๆ เพิ่มพูนความเข้าใจถูกเห็นถูกยิ่งขึ้น ขัดเกลาละคลายความเห็นผิดความไม่รู้และอกุศลธรรมทั้งหลาย ก็เพราะอาศัยการศึกษา การฟังพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง บ่อยๆ เนืองๆ เป็นปกติในชีวิตประจำวัน ไม่ขาดการฟังพระธรรม ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตทุกๆ ท่านครับ...
การได้ยินได้ฟังธรรมะที่ผิด อยู่ที่ตัวเองมีความมั่นคงในความเห็นถูกไหม ถ้ารู้สิ่งไหนถูกก็ให้ทิ้งสิ่งที่ผิด อยู่ที่การสะสมของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ค่ะ
เหตุให้เกิดความเห็นผิดก็คือฟังแต่อสัทธรรม (ไม่ฟังธรรมของพระพุทธเจ้า)
เหตุให้เกิดความเห็นถูกก็คือฟังแต่สัทธรรม (ฟังธรรมของพระพุทธเจ้า)
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาค่ะ
สาธุ
ขออนุโมทนาครับ