[เล่มที่ 15] พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค เล่ม ๓ ภาค ๑ - หน้าที่ 174
ข้อความบางตอนจาก...
อัคคัญญสูตร
พระโสดาบันย่อมเป็นผู้มีศรัทธาดำรงมั่นแท้ เปรียบเสมือนสูรอัมพัฏฐอุบาสกฉะนั้น. นัยว่า อุบาสกนั้นฟังพระธรรมเทศนาของพระศาสดาแล้ว เป็นพระโสดาบันได้กลับไปเรือน. ที่นั้นมารเนรมิตพระพุทธรูปอันประดับ ด้วยลักษณะอันประเสริฐ ๓๒ ประการ ยืนอยู่ที่ประตูเรือนของอุบาสกนั้น แล้วส่งสาส์นไปว่า พระศาสดาเสด็จมาดังนี้
สูรอุบาสกคิดว่า เราฟังธรรม ในสำนักของพระศาสดามาเดี๋ยวนี้เอง อะไรจักมีอีกหนอดังนี้แล้ว เข้าไป หาไหว้ด้วยสำคัญว่าเป็นพระศาสดาแล้วจึงได้ยืนอยู่ มารกล่าวว่า อัมพัฏฐะ คำใดที่เรากล่าวแก่ท่านว่า รูปไม่เที่ยง ฯลฯ วิญญาณไม่เที่ยงดังนี้ คำนั้น เรากล่าวผิดไป เพราะเรายังไม่พิจารณาจึงกล่าวคำนั้นไป ฉะนั้นเธอจง ถือเอาว่า รูปเที่ยง ฯลฯ วิญญาณเที่ยงดังนี้เถิด สูรอุบาสกคิดว่า ข้อที่พระพุทธเจ้าทั้งหลายไม่พิจารณา ไม่ทำการตรวจตราอย่างประจักษ์แล้ว พึงตรัสอะไรไปนั้นไม่ใช่ฐานะที่จะมีได้ มารนี้มาเพื่อมุ่งทำลายเราอย่างแน่นอน
ลำดับนั้น สูรอุบาสกจึงกล่าวกะมารนั้น ว่าท่านเป็นมารใช่ไหมดังนี้ มารนั้นไม่อาจที่จะกล่าวมุสาวาทได้ จึงรับว่า ใช่เราเป็นมาร ดังนี้ อุบาสก ถามว่าเพราะเหตุไร ท่านจึงมา มารตอบว่า เรามาเพื่อทำศรัทธาของท่านให้หวั่นไหว อุบาสกกล่าวว่า ดูก่อนมารผู้ใจบาปอำมหิต ท่านผู้เดียวนั้น จงหยุดอยู่ก่อน พวกมารเช่นท่าน ร้อยก็ดี พันก็ดี แสนก็ดี ไม่สามารถจะทำศรัทธาของเราให้หวั่นไหวได้ ชื่อว่าศรัทธาอันมาแล้วด้วยมรรค เป็นของมั่นคงไม่หวั่นไหวเหมือนภูเขาสิเนรุ ซึ่งตั้งอยู่บนแผ่นดินอันล้วนแล้วด้วยสิลา ท่านจะทำอะไรในการมานี้ ดังนี้แล้วปรกมือขึ้น มารนั้นเมื่อไม่สามารถจะดำรงอยู่ได้ จึงหายไปในที่นั้นนั่นเอง คำว่า นิวิฏฺา นั้นพระผู้มีพระภาคตรัสหมายเอาสัทธาอย่างนั้น
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น