ในกระทู้หมายเลข 018424 ความคิดเห็นที่ 38 กระผมตั้งคำถามตามที่ได้อ่าน
ความคิดเห็นที่ 25 ว่า วันเวลาในภพภูมิต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นนรก สวรรค์หรือมนุษย์ ล้วน
แต่เท่ากันทั้งสิ้น 100 ปีของมนุษย์ก็เท่ากับ 100 ปีของสวรรค์ และก็เท่ากับ 100 ปีของ
นรกนั่นเอง เพียงแต่ "ความรู้สึก" ของผู้ที่เกิดในภพภูมินั้นๆ นั่นเองที่แตกต่างกัน เช่น
เทวดาก็บอกว่า 100 ปีเหมือนกับชั่วครู่เดียว สัตว์นรกจะบอกว่า 100 ปีนานเหมือนพันปี
แสนปี นั่นก็คือเป็นเพียง "วันเวลาตามความรู้สึก" ไม่ใช่วันเวลาตามความเป็นจริง
กระผมตั้งข้อสังเกตว่า ถ้าเป็นเพียงวันเวลาตามความรู้สึกแล้วไซร้ พระพุทธพจน์ที่
ตรัสแก่นางวิสาขาใน อุโบสถสูตร เกี่ยวกับอายุของมนุษย์เทียบกับอายุของสวรรค์ชั้น
ต่างๆ นั้น เราจะต้องเข้าใจกันว่าอย่างไรจึงจะถูกต้อง
คำถามของกระผมยังไม่มีคำตอบครับ กระทู้หัวข้อนั้นก็ไม่ได้ update แล้ว คำถาม
นั้นก็คงจะลืมกันไปแล้ว ขอความกรุณาท่านผู้รู้ได้โปรดไขข้อข้องใจด้วยจะเป็นพระคุณ
อย่างยิ่ง หรือจะชี้แนะให้ไปอ่านกระทู้เก่า (ถ้าเคยมีคำตอบเรื่องนี้มาแล้ว) ก็ได้ครับ ขอ
ขอบพระคุณล่วงหน้าในความเมตตาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย วันเวลาของมนุษย์และเทวดา มี แต่ไม่ใช่ต่างกันเพียงความรู้สึกครับ ไม่ใช่ว่าปี
หนึ่งของมนุษย์จะเท่ากับปีหนึ่งของภพภูมิของเทวดาด้วยความรู้สึก ด้วยเหตุผลว่า
ความสุขในเทวดามีมากก็เลยเหมือนผ่านไปเร็ว อันนี้ไม่ใช่ครับ แต่ความจริงเวลาของ
เทวดาย่อมแตกต่างจากภพภูมิมนุษย์ เช่น 1 วันของชั้นดาวดึงส์เท่ากับ 100 ปีมนุษย์
การเกิดเป็นเทวดาย่อมเกิดจากกุศลที่ประณีตกว่าภพภูมิมนุษย์ ดังนั้นการเสวยสุขก็
ย่อมนานกว่ามนุษย์ เพราะเป็นผลของกุศลทีประณีต จึงมีภพภูมิที่เหมาะสมในการ
ดำรงอายุอยู่ยาวนานของเหล่าเทวดา มีสวรรค์ เป็นต้น ดังนั้นวันเวลาของเทวดาจึง
ยาวนานครับ ซึ่งในพระไตรปิฎกก็มีตัวอย่างเรื่องของวันเวลาของเทวดากับมนุษย์
อย่างเรื่อง นางปติปูชิกา นางเป็นเทพธิดา กำลังเก็บดอกไม้อยู่ นางก็จุติไปเกิดเป็น
มนุษย์ และก็โตเป็นสาว มีครอบครัว มีบุตร 4 คน ก็ทำบุญปรารถนากับไปเกิดใน
สำนักสามีที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์อีก และนางก็สิ้นชีวิตกับไปเกิดในสำนักสามีเดิมที่
สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เทพบุตรก็ถามนางว่าไปไหนมาสักครู่นี้ นางปติปูชิกา เทพธิดาจึง
เหล่าเรื่องให้ฟังว่าไปเกิดเป็นมนุษย์ เป็นต้นครับ
จะเห็นได้ว่า เวลาของภพภูมิมนุษย์กับของเทวดาต่างกัน อันเกิดจากความประณีต
ของกุศลที่ทำให้เกิดในภพภูมิที่สมควรจะไดรับ ผลของกุศลกรรมเป็นระยะเวลาที่แตก
ต่างกันนั่นเองครับ อีกเรื่องหนึ่ง เทวดาผู้มีอายุยืนยาว ต้องการจะร้อยพวงมาลัยถวาย
พระพุทธเจ้า เมื่อคราวประสูติ ร้อยพวงมาลัยยังไม่เสร็จก็ตรัสรู้ ยังไม่ทันจะเสร็จก็จะ
ปรินิพพานแล้ว แสดงให้เห็นว่าเวลาของภพภูมิก็แตกต่างกันไปครับ
พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้าที่ 154
บทว่า สคฺคกถ ความว่า กถาปฏิสังยุต ด้วยสวรรค์มีอาทิอย่าง
นี้ว่า ชื่อว่า สวรรค์นี้ น่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ กีฬาอันเป็นทิพย์-
สมบัติ ย่อมได้ในสวรรค์นี้เป็นนิจ เหล่าเทวดาชั้นจาตุมมหาราชิกา ย่อมได้
ทิพยสุขและทิพยสมบัติตลอดเก้าล้านปี เหล่าเทวดาชั้นดาวดึงส์ ย่อมได้ทิพย
สุขและทิพยสมบัติตลอดสามโกฏิปี และหกล้านปี.
อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ไม่ว่าจะเป็นในภพภูมิใด นามธรรม (ยกเว้นในภูมิที่ไม่มีนามธรรม คือ อสัญญสัตตาพรหมภูมิ) กับ รูปธรรม (ยกเว้นอรูปพรหมภูมิ เพราะอรูปพรหมภูมิมีแต่นามธรรม) เป็นจริงอย่างไร ก็เป็นจริงอย่างนั้น กล่าวคือ จิตและเจตสิกที่เกิดขึ้นเป็นไป นั้น ก็เกิดขึ้นเพียงชั่วขณะสั้นๆ แล้วดับไป เป็นปัจจัยให้จิตขณะต่อไปเกิดสืบต่อทันที ไม่มีจิตดวงใดที่เกิดแล้วจะดำรงอยู่นานยั่งยืนเลย เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็ดับไปเท่านั้น ส่วนรูปธรรม เกิดขึ้นตามสมุฏฐานที่ก่อตั้งให้รูปเกิด แล้วก็ดับไป ไม่ยั่งยืนเช่นเดียวกัน ประโยชน์สูงสุดอยู่ที่ความเข้าใจสภาพธรรมที่กำลังมีกำลังปรากฏในชีวิตประจำวัน ที่พอจะศึกษาและเข้าใจได้ โดยเริ่มจากการฟังธรรม ฟังในสิ่งที่มีจริงบ่อยๆ เนืองๆ ไม่ขาดการฟังธรรม ครับ ...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ความคิดเห็นที่ 1 และ 2 ให้คำตอบที่เป็นหลักฐานทางวิชาการเพื่อการอ้างอิง
เหมาะมากสำหรับท่านที่จะเชื่ออะไรสักที ก็ต้องมีหลักฐาน
ความคิดเห็นที่ 4 และ 5 ให้แง่คิดทางธรรม สำหรับท่านที่ต้องการเจริญสติปัญญา
(โดยเฉพาะท่าน wannee.s ที่มักจะช่วยเติมอะไรเล็กๆ น้อยๆ แต่มีค่ามาก ให้อยู่เสมอ)
เป็นคำตอบที่ครบถ้วนบริบูรณ์ ขอบพระคุณอย่างยิ่งครับ
(ขอประทานโทษ แล้วความคิดเห็นที่ 3 หายไปไหนครับ?)
ขออนุโมทนากับทุกท่านค่ะ
ดิฉันก็ข้องใจไม่หายค่ะ เรื่องเวลา อย่างร้อยมาลัย อารมณ์ความรู้สึกก็ไม่น่าต่างกัน
ในเมื่อมนุษย์ใช้เวลาร้อยมาลัย ได้มาลัยหนึ่งพวง
เทวดาก็ใช้เวลาร้อยมาลัย ก็ได้มาลัยหนึ่งพวง เหมือนกัน
มองไม่เห็นประโยชน์ของความยาวนานของวันเวลาที่ต่างกัน
มันก็อารมณ์เดียวกันในการใช้เวลา ประโยชน์อะไรกับเรื่องเวลานะค่ะ
ถ้าอารมณ์เดียวกันขยายเวลาให้นานกว่า เทวดาก็ต้องร้อยมาลัยแบบ
สโลโมชั่น เหมือนที่เราเห็นในหนังนะค่ะ
สุดท้ายก็ต้องเวียนเกิดในนรกในลำดับต่อไปเป็นส่วนใหญ่
ทั้งคนทั้งเทวดา ใช่ว่าจะหนีนรกไปได้นาน
ขออนุโมทนาครับ