* ชีวิต ก็คือจิตที่เกิดดับสืบต่อกันไปอย่างรวดเร็ว โดยจิตแต่ละขณะที่เกิดขึ้น ก็ทำกิจของจิตนั้นๆ แล้วก็ดับไป เช่น จิตเห็นเกิดขึ้นทำกิจเห็น อกุศลจิตเกิดขึ้นทำกิจของอกุศล กุศลจิตก็เกิดขึ้นทำกิจของกุศล แล้วก็ดับไป
* อกุศลจิตหรือกุศลจิตแต่ละขณะ เกิดแล้วดับแล้ว ไม่กลับมาอีกเลย แต่ก็จะทำให้สะสมอุปนิสัยในอกุศลหรือกุศล สืบต่อไปในจิตขณะต่อๆ ไป
* ดังนั้น ขณะที่เข้าใจความจริง ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงว่า เดี๋ยวนี้ เป็นธรรม ไม่มีเรา ตั้งแต่ขั้นการฟัง จึงเป็นขณะที่ประเสริฐ เพราะแม้ขณะที่เข้าใจนั้น จะดับไป หมดไป แต่ก็จะสะสมอุปนิสัยที่มีความเข้าใจถูกตามความเป็นจริงว่า เป็นธรรม ไม่ใช่เรา ไม่มีเรา สืบต่อไปในจิต ซึ่งจะเป็นปัจจัยให้สามารถประจักษ์แจ้งในความเป็นธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริงต่อไป
โดย อ.อรรณพ หอมจันทร์
อ่านหัวข้ออื่นๆ คลิกที่นี่ ... คติธรรม
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ