เรียนอาจารย์ทั้งสองท่าน
"เข้าใจลักษณะของสิ่งที่กำลังปรากฏ" พจนาท่านอาจารย์ในพระอภิธรรมพื้นฐาน 280 ขอความอนุเคราะห์อาจารย์ช่วยกรุณาให้ความหมายในประโยคนี้ด้วยครับ ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 280
สุ. ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่า ธรรมเป็นสิ่งที่ละเอียดตั้งแต่ต้น ถ้าเรายังไม่มีความเข้าใจขั้นต้นที่ละเอียด แม้แต่ปฏิบัติ เราก็ไม่รู้ว่าขณะนั้นคืออะไร เพราะฉะนั้นก่อนที่จะ ว่า มากขึ้น น้อยลง ปฏิบัติ คืออะไร
วิจิตร. ปฏิบัติ คือ ให้มีสติเกิดบ่อยๆ
สุ. ค่ะ ผิด
วิจิตร. ครับ แล้วอย่างไรถูกล่ะครับ
ส. เข้าใจลักษณะของสิ่งที่กำลังปรากฏเพิ่มขึ้น
วิจิตร. แล้วอย่างไรต่อครับ
สุ. ไม่มีต่อเลยค่ะ เพราะเหตุใดคะ เพราะเหตุว่า เมื่อกี้นี้ได้ยินคำว่า “ธรรม” และ ธรรมก็มีจิต เจตสิก รูป การศึกษาธรรมก็คือว่า ให้เข้าใจสิ่งที่มีแล้วในขณะนี้ว่า เป็นธรรมเข้าใจอย่างนี้จริงๆ หรือยัง ยังไม่กล่าวถึงจิต เจตสิก รูป แต่ขณะนี้ เดี๋ยวนี้ สิ่งที่มีเป็นธรรม เป็นสิ่งที่มี เพราะฉะนั้น ถ้าปฏิบัติธรรม จะปฏิบัติอย่างไร
วิจิตร. คือไม่นึกถึงโลภะ โทสะ โมหะ
สุ. ไม่ใช่เลยค่ะ เข้าใจธรรมที่กำลังปรากฏในขณะนี้ว่า เป็นธรรมหรือเปล่า เพราะ ฉะนั้นยังไม่ต้องไปคิดเรื่องปฏิบัติเลย เพราะเหตุว่า ธรรมเป็นเรื่องละเอียดแม้แต่ การฟังฟังด้วยเรามีธรรมนั้นๆ กับฟังว่า ธรรมไม่ใช่เรา ที่เคยยึดถือว่าเป็นเราทั้งหมด เป็นธรรมทั้งนั้น นี่ฟังด้วยการเริ่มเข้าใจธรรมว่า ธรรมเป็นสิ่งที่มี และไม่ใช่เรา แต่ถ้าเราฟังด้วยการคิดว่า เราจะเข้าใจสิ่งที่มีว่า เราเป็นอย่างไร วันนั้นวันนี้ นั่นไม่ถูก นั่นไม่ได้เข้าใจธรรมเลย เพราะฉะนั้นความละเอียด ก็คือกำลังฟังธรรม แม้คำนี้ก็ต้องรู้ว่า กำลังฟังเพื่อเข้าใจสิ่งที่ไม่เคยรู้ว่าเป็นธรรม เพราะไปเข้าใจว่า เป็นตัวตน
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
เข้าใจลักษณะของสิ่งที่กำลังปรากฏ จึงหมายถึง สติ และปัญญา ที่เกิดระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้ว่าเป็นแต่เพียงธรรม ไม่ใช่เรา ซึ่งแล้วแต่ว่า สติ จะเกิดระลึกสภาพธรรมอะไร ครับ ซึ่งจะต้องอาศัยการฟัง ศึกษาพระธรรม ครับ
ขออนุโมทนา
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนา อ. ผเดิม ด้วยค่ะ
ขอร่วมสนทนาด้วยค่ะ
ที่ อ.ผเดิม อธิบายนั้น ชัดเจนมาก และควรค่าแก่การพิจารณาให้เกิดความเข้าใจถูกเห็นถูก ซึ่งจะเป็นประโยชน์มาก ที่ว่า.. เข้าใจลักษณะ ของสิ่งที่กำลังปรากฏ จึงหมายถึง สติ และปัญญา ที่เกิดระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้ ว่าเป็นแต่เพียงธรรม ไม่ใช่เรา เพราะเมื่อก่อนมาฟังธรรมกับท่านอาจารย์ ก็ฟัง ฟังด้วยเรามีธรรมนั้นๆ และเมื่อฟังด้วยเรามีธรรมนั้นๆ ก็ให้มีสติเกิดบ่อยๆ ไประลึกรู้สิ่งที่กำลังปรากฏ ซึ่งก็เข้าใจผิดตลอดว่า เราเอาสติไประลึกรู้ ทั้งๆ ที่สติเป็นสภาพธรรมที่เป็นกุศล เกิดระลึกเป็นไปในทาน การให้ การวิรัติงดเว้นกระทำทุจริต การอบรมความสงบของจิต และการอบรมเจริญปัญญารู้สิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏ แต่เราไม่มีความเข้าใจจริงๆ เลยว่า ธรรม คืออะไร เราก็เลยเอาสติไปรู้โน่น รู้นี่ ก็เป็นตัวเราตลอดเวลาที่จะทำ ที่จะปฏิบัติ ซึ่งผิดทางแน่นอน ธรรมนั้นละเอียด ลึกซึ้ง เข้าใจตามได้ยากจริงๆ หากไม่ฟังด้วยความเคารพอย่างยิ่งในพระธรรมเป็นผู้ควรแก่การฟังพระราชดำรัส ไม่คิดธรรมเอาเอง ไม่มีเราที่จะทำอะไรได้ นอกจากต้องอาศัยการฟัง ศึกษาพระธรรม และตั้งใจฟังด้วยดี ไม่ให้คำ และเสียงนั้นคลาดเคลื่อนจากอรรถ ที่แท้จริง ที่ลึกซึ้ง ที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงไว้แล้วด้วยดี เริ่มจากการฟังให้เข้าใจสิ่งที่มีจริง เห็น เกิดขึ้นแล้ว ดับ ด้วย จะเป็นเราได้อย่างไร ฟังพระธรรม เพื่อเข้าใจ หรือเพื่อเราเข้าใจ
... กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ อย่างยิ่งค่ะ...
ขอบพระคุณ และ ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
สาธุค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
สาธุค่ะ