อีกประการหนึ่ง ภิกษุหายจากอาพาธแล้ว แต่ยังหายไม่นาน เธอมีความคิดอย่างนี้ว่า เราหายจากอาพาธแล้ว แต่ยังหายไม่นาน กายของเรายังอ่อนเพลีย ไม่ควรแก่การงาน ผิฉะนั้นเราจักนอนเสียก่อน เธอนอนเสีย ไม่ปรารภความเพียรเพื่อถึงการงานที่ยังไม่ถึง เพื่อบรรลุการงานที่ยังไม่บรรลุ เพื่อทำให้แจ้งทางที่ยังไม่ได้ทำให้แจ้ง นี้เป็นกุสีตวัตถุประการที่ ๘
ขออนุโมทนาครับ
ขอถวายความนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น
ภิกษุทั้งหลาย กุสีตวัตถุ (เหตุแห่งความเกียจคร้าน) ๘ ประการ กุสีตวัตถุ ๘ ประการ อะไรบ้าง คือ
๑. ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้มีงานที่ต้องทำ เธอมีความคิดอย่างนี้ว่า ‘เราจักต้องทำงาน เมื่อเราทำงานอยู่ กายจักเมื่อยล้า อย่ากระนั้นเลยเราจะนอน’ เธอจึงนอนเสีย ไม่ปรารภความเพียรเพื่อถึงธรรมที่ยังไม่ถึง เพื่อบรรลุธรรมที่ยังไม่บรรลุ เพื่อทำให้แจ้งธรรมที่ยังไม่ทำให้แจ้ง นี้เป็นกุสีตวัตถุประการที่ ๑ ...
กุสีตารัพภวัตถุสูตรที่ ๑๐ มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
บทว่า กุสีตวตฺถูนิ ได้แก่ วัตถุคือที่ตั้งแห่งคนเกียจคร้าน คือคนขี้เกียจ. อธิบายว่า เหตุแห่งความเกียจคร้าน.
บทว่า กมฺมํ กตฺตพฺพํ โหติ ได้แก่ จำต้องทำงานมีการกะจีวรเป็นต้น.
บทว่า น วีริยํ อารภติ ได้แก่ ไม่ปรารภความเพียรทั้ง ๒ อย่าง.
บทว่า อปฺปตฺตสฺส ได้แก่ เพื่อถึงธรรม คือ ฌาน วิปัสสนา มรรคและผลที่ยังไม่ถึง.
บทว่า อนธิคตสฺส ได้แก่ เพื่อบรรลุธรรมคือฌานเป็นต้น นั้นนั่นแหละที่ยังไม่บรรลุ.
บทว่า อสจฺฉิกตสฺส ได้แก่ เพื่อทำให้แจ้งซึ่งธรรม คือฌานเป็นต้นนั้นนั่นแหละ ที่ยังไม่ได้ทำให้แจ้ง.
บทว่า อิทํ ปฐมํ ความว่า การท้อถอยอย่างนี้ว่า เอาเถิด เราจะนอน
นี้เป็นกุสีตวัตถุเหตุแห่งความเกียจคร้านข้อที่ ๑.