เชิญคลิกอ่านที่นี่...
เรื่องภิกษุ ๗ รูป [คาถาธรรมบท]
เราไม่มีเจตนาฆ่า มันตายเอง วิบากย่อมไม่มีเพราะไม่เป็นอกุศลกรรมบถ สัตว์ทั้งหลายย่อมเป็นไปตามกรรม ความจริงโดยปรมัตถธรรมไม่มีเรา ไม่มีสัตว์ สิ่งที่เกิดขึ้นทุกขณะ เป็นเพียงสภาพธรรมอย่างหนึ่งเท่านั้นจริงๆ
ไม่มีเจตนาฆ่า แต่ไม่น่าไปขังเขาเลยนะคะ น่าจะจับไปปล่อยไกลๆ ทุกชีวิตมีกรรมเป็นของตน สงสารตะขาบจังเลยค่ะ คราวหน้าอย่าทำอย่างนี้อีกเลยนะคะ
มีเมตตาจิตอนุเคราะห์สัตว์ทั้งมวล
ได้ยินว่า พระวารณเถระ ได้ภาษิตคาถานี้ไว้ อย่างนี้ว่า บรรดามนุษย์ในโลกนี้ นรชนใดเบียดเบียนสัตว์เหล่าอื่น นรชนนั้นจะกำจัดหิตสุขในโลกทั้ง ๒ คือ ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า ส่วนนรชนใดมีเมตตาจิตอนุเคราะห์สัตว์ทั้งมวล นรชนนั้นผู้เช่นนั้น จะประสบบุญตั้งมากมาย
ขอบูชาคุณพระรัตนตรัย
บาป คือ ขณะที่เป็นอกุศล บาปหรืออกุศลมีหลายระดับ ที่เป็นเพียงอกุศลจิต หรือล่วงออกมาทางกาย วาจา แต่ไม่ครบกรรมบถ ที่ทำให้ต้องเกิดในอบายภูมิหรือล่วงออกมาทางกายและวาจา จนครบกรรมบถ กรรมนั้นสามารถนำเกิดไปอบายภูมิได้ จากเหตุการณ์ที่กล่าวมา ต้องเข้าใจว่า จิตเป็นสภาพธัมมะที่เกิดดับอย่างรวดเร็วเป็นอกุศลและกุศลอย่างรวดเร็ว กรรมขึ้นอยู่กับเจตนา มีเจตนาที่จะกักกันเขาเพราะ....
แต่ไม่ได้มีเจตนาฆ่า ถึงแม้สัตว์จะตายก็ตาม ดังนั้น เจตนาไม่ใช่เจตนาฆ่า แต่เจตนากักกัน เป็นอกุศลที่ล่วงออกมาทางกาย แต่ไม่ครบกรรมบถให้นำเกิดในอบายภูมิ แต่สามารถให้ผลในปวัตติกาล คือ เมื่อเกิดแล้วได้ ถ้ากรรมนั้นให้ผล และเป็นอกุศลมีเจตนาที่ไม่ดี ดังตัวอย่างในพระไตรปิฎก
เชิญคลิกอ่านที่นี่...
เรื่องภิกษุ ๗ รูป [คาถาธรรมบท]
จงเห็นบาปโดยความเป็นบาป
ธรรมเทศนา ๒ ประการ ของพระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ย่อมมีโดยปริยาย ๒ ประการ เป็นไฉน คือ ธรรมเทศนาประการที่ ๑ นี้ว่า เธอทั้งหลายจงเห็นบาปโดยความเป็นบาป ธรรมเทศนาประการที่ ๒ แม้นี้ว่า เธอทั้งหลายครั้นเห็นบาปโดยความเป็นบาปแล้ว จงเบื่อหน่าย จงคลายกำหนัด จงปลดเปลื้องในบาปนั้น
ขอบคุณครับ อนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาค่ะ