วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 15
การเจริญสมาธิ
ส่วนคำเฉลยในปัญหาข้อว่า "สมาธินั้นจะพึงเจริญอย่างไร" นี้พึงทราบต่อไปนี้ สมาธิใดอันสัมปยุตด้วยอริยมรรค ที่ข้าพเจ้ากล่าวไว้ก่อนแล้วในทุกสมาธิ มีข้อว่า "นี้สมาธิเป็น ๒ โดยเป็นโลกิยะและโลกุตระ" ดังนี้เป็นอาทิ นัยแห่งการเจริญอริยมรรคสมาธินั้นสงเคราะห์เข้ากับนัยแห่งการเจริญปัญญาได้ทีเดียว เพราะว่าเมื่อเจริญปัญญาแล้ว มรรคสมาธินั้นก็ย่อมเป็นอันเจริญด้วยแท้ เพราะเหตุนั้น เราจะไม่มุ่งเอามรรคสมาธินั้นมากล่าวแยกไว้ต่างหากว่ามรรคสมาธินั้นจะพึงเจริญอย่างนี้ๆ ส่วนว่าสมาธิอันเป็นโลกิยะนี้ใดโลกิยะสมาธินั้น อันพระโยคาวจรผู้ยังศีลทั้งหลายให้หมดจด โดยนัยที่กล่าวแล้ว ตั้งอยู่ในศีลอันบริสุทธิ์ดีแล้ว บรรดาปลิโพธ ๑๐ ประการ ปลิโพธใดของเธอมีอยู่ ตัดปลิโพธนั้นเสียแล้ว เข้าไปหาท่านผู้ให้กรรมฐานผู้เป็นกัลยาณมิตร ถือเอากรรมฐาน ๔๐ ข้อใดข้อหนึ่งซึ่งอนุกูลแก่จริยาของตน ละวิหารอันไม่เหมาะสมแก่การเจริญสมาธิเสีย อยู่ในวิหารอันเหมาะ ตัดความกังวลเล็กๆ น้อยๆ (เสียให้หมดด้วย) แล้วพึงเป็นผู้ไม่ทำภาวนาวิธีทั้งปวงให้บกพร่องไป เจริญขึ้นเถิดนี้เป็นความสังเขปในการเจริญสมาธินั้น ส่วนความพิสดารดังต่อไปนี้
ปลิโพธ ๑๐
วินิจฉัยในข้อที่ว่า "บรรดาปลิโพธ ๑๐ ประการ ปลิโพธใดของเธอมีอยู่ ตัดปลิโพธนั้นเสีย " นี้ก่อน เครื่องกังวลนั้น คือ อาวาส ตระกูล ลาภ คณะและการงานเป็นที่ ๕ การเดินทาง ญาติ อาพาธ การเล่าเรียน และฤทธิ รวมเป็น ๑๐
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ยินดีในกุศลจิตค่ะ