ผู้ที่ได้ฟังพระธรรม และสังเกตพิจารณาแม้ในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็จะเป็นประโยชน์ ยิ่งสังเกตมาก พิจารณาละเอียดมาก ประโยชน์ที่ได้รับก็มาก เพราะบางท่านบอกว่า ไม่ฟังพระสูตร ไม่สนใจพระสูตร ท่านคิดว่าท่านอ่านเองได้ แต่ถ้าไม่ฟังความคิดเห็น และการพิจารณาของบุคคลอื่น ซึ่งอาจจะมีการพิจารณา ความละเอียดในลักษณะต่างๆ กัน ถ้าไม่ฟังความคิดเห็นของบุคคลอื่นเลย ย่อมจะขาดประโยชน์ เพราะว่าจะขาดข้อคิดในแง่ที่เป็นประโยชน์ของบุคคลอื่น

บางท่านอ่านพระสูตรด้วย แต่อ่าน และก็คิด และมีเรื่องสงสัยในพุทธวิสัยบ้าง ในฌานวิสัยบ้าง เป็นต้น ซึ่งตามความจริงถ้าจะพิจารณาว่า ปัญญาของผู้ที่อ่านไม่ใช่ปัญญาของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระอัครสาวก หรือพระอริยเจ้าในครั้งที่ พระผู้มีพระภาคยังไม่ปรินิพพาน เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของพุทธวิสัย หรือในเรื่องของฌานวิสัย ก็เป็นสิ่งซึ่งถ้าบุคคลนั้นยังไม่อาจที่จะบรรลุได้ ย่อมจะหมดความสงสัยไม่ได้ แม้ในเรื่องของอิทธิฤทธิ หรือแม้แต่ในเรื่องของฌานจิตที่เป็นปฐมฌานก็ตาม

ที่มา อ่าน และฟังเพิ่มเติม

เรื่องของอิทธิปาฏิหาริย์

ผู้ที่ได้ฟังพระธรรม และสังเกตพิจารณาแม้ในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็จะเป็นประโยชน์ ยิ่งสังเกตมาก พิจารณาละเอียดมาก ประโยชน์ที่ได้รับก็มาก

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

กราบนอบน้อมพระรัตนตรัยด้วยเศียรเกล้า
การศึกษาพระธรรมที่ทรงแสดง ต้องเป็นผู้ละเอียด เพราะเป็นการศึกษาความจริงของสภาวะธรรมที่ละเอียดลึกซึ้งสุดจะประมาณ ปุถุชนคิดเองก็เข้าใจผิดได้ง่าย จึงต้องฟัง และศึกษา ด้วยความเคารพ รอบคอบ และไม่ประมาทว่ารู้แล้ว
กราบเท้าบูชาพระคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง

ขอบพระคุณยินดีในกุศลธรรมทานค่ะ

ปุถุชนคิดเองก็เข้าใจผิดได้ง่าย จึงต้องฟัง และศึกษา ด้วยความเคารพ รอบคอบ และไม่ประมาทว่ารู้แล้ว

ยินดีในกุศลจิตครับ

"สาวก คือ ผู้ฟัง ถ้าไม่ฟัง แล้วจะมีปัญญาเกิดขึ้นเอง ... เป็นไปไม่ได้"

ฟังเพื่อรู้ความจริงว่าไม่รู้มากมายระดับไหน ไม่รู้อะไร? ไม่รู้สิ่งที่กำลังปรากฏทุกขณะ ลองคิดดู จริงหรือเปล่า? มีสิ่งที่ปรากฏตั้งแต่เกิดจนตายทุกขณะไม่รู้ในความจริงของสิ่งที่ปรากฏทุกขณะ เพราะฉะนั้น จุดประสงค์ คือ ฟังผู้ที่ได้ทรงตรัสรู้ เพราะรู้ว่าคิดเองไม่ได้

ความลึกซึ้งของธรรมต้องด้วยความเคารพสูงสุดจริงๆ มิฉะนั้นก็เหมือนการบิดเบือนคำสอนของพระองค์ซึ่งไม่ตรงความหมายและความจริงของสิ่งนั้น เพราะฉะนั้น ได้ฟังอย่างนี้ มาเพื่อที่จะรู้ความจริงว่าอกุศลเดี๋ยวนี้เต็มหมดเลยทุกทวาร ไม่ว่าจะเห็นจะได้ยินเป็นต้น แต่มีโอกาสที่จะรู้ความจริงที่จะค่อยๆ พ้นจากความไม่รู้ ซึ่งเป็นเบื้องต้นของกิเลสทั้งปวง ถ้ารู้อย่างนี้เบิกบานไหมตั้งแต่เริ่มที่จะฟังที่จะเห็นประโยชน์ที่จะเห็นคุณ แม้ว่าการเข้าใจทีละน้อยมากจริงๆ ขันติบารมี ถ้าไม่อดทนจะถึงการที่จะเข้าใจความจริงไหม?

ที่มา : สนทนาธรรมเนื่องในวันอาสาฬหบูชา

ที่มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๖๗

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์

กราบขอบพระคุณและยินดียิ่งในกุศลผู้มีคุณทุกท่านทุกประการ

ฟังเพื่อรู้ความจริงว่า ไม่รู้มากมายระดับไหน ไม่รู้อะไร? ไม่รู้สิ่งที่กำลังปรากฏทุกขณะ ลองคิดดู จริงหรือเปล่า? มีสิ่งที่ปรากฏตั้งแต่เกิดจนตายทุกขณะ ไม่รู้ในความจริงของสิ่งที่ปรากฏทุกขณะ เพราะฉะนั้น จุดประสงค์ คือ ฟังผู้ที่ได้ทรงตรัสรู้ เพราะรู้ว่าคิดเองไม่ได้

ยินดีในกุศลจิตครับ