ถ้าเขาเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน ก็เช่นเดียวกับการเกิดเป็นมนุษย์ เมื่อไม่สามารถที่จะรู้ได้ ก็ไม่สามารถที่จะอนุโมทนาได้ แต่ถ้าเกิดเป็นเปรตสามารถรู้ก็อนุโมทนาได้ เพราะฉะนั้น การได้บุญหรือการรับส่วนบุญที่มีผู้อุทิศไปให้นั้น ไม่ใช่ว่าเราจะหยิบยื่นบุญของเราให้คนอื่น แต่หมายความว่าเราแผ่อุทิศส่วนบุญกุศลให้เขารู้ แล้วถ้าจิตของเขาอนุโมทนา คือ ยินดีด้วย นั่นคือกุศลจิตเขาเกิด จึงเป็นบุญของเขา ไม่ใช่ว่าเอาบุญของเราไปให้เขา แต่ต้องเป็นบุญของเขาเอง กุศลจิตของเขาเองเกิดแล้วอนุโมทนา เพราะฉะนั้น แม้ว่าญาติพี่น้องมิตรสหายจะสิ้นชีวิตไปแล้ว เราทำบุญอุทิศส่วนบุญกุศลไปให้ เผื่อว่าเขาจะรู้และอนุโมทนา เราก็จะเอาบุญของเราไปให้เขาก็ไม่ได้ เพราะเหตุว่าบุญของใครก็เป็นของคนนั้น ขึ้นอยู่กับจิตใจของคนนั้น
จากหนังสือ บทบาท อ.สุจินต์ ในการเผยแผ่พุทธธรรม
โดย พระธนนาถ นิธิปญฺโญ
การรับส่วนบุญ รับได้เฉพาะคนตาย ส่วนการแผ่เมตตาแผ่ได้เฉพาะสิ่งมีชีวิต ดิฉันเข้าใจถูกต้องหรือไม่ค่ะ
ขออนุโมทนา
การรับส่วนบุญ ได้ทั้งคนเป็นและคนตายค่ะ เช่น อุปกาชีวก ฟังธรรมะ แล้วทำประทักษิณ มาบอกบุญกับภรรยาค่ะ
ขอโทษค่ะ ตั้งคำถามผิด การอุทิศส่วนบุญ ทำได้เฉพาะคนตายใช่หรือไม่
การอุทิศส่วนกุศลส่วนมากใช้กับคนที่ล่วงลับไปแล้ว ส่วนคนที่ยังมีชีวิตอยู่ เช่นเราบริจาคเลือด แล้วเราก็มาบอกให้เพื่อนอนุโมทนาในส่วนบุญที่เราทำเป็นต้นค่ะ
Anumotana ka.
ขออนุโมทนาครับ