มีนิกายหนึ่งในประเทศเราที่หลายๆ คนมักพูดถึงในทางที่ไม่ค่อยดีนัก เกี่ยวกับเรื่องการบริจาคมาก จะได้มาก ยิ่งมาก ยิ่งดี บ้างก็ว่าเหมือนแชร์ลูกโซ่อะไรก็ว่ากันไป แต่ทำไมยังมีฝูงชนมากมายศรัทธาเลื่อมใส มีรายการ tv ของตัวเอง มีเทศกาลใส่บาตรใหญ่โต บ้างว่าทุ่มบริจาคกันถึงขั้นหมดเนื้อหมดตัว นักบวชนิกายนี้ก็ยังสวมใส่เครื่องแบบเหมือนสงฆ์เสียด้วย คำสอนของเขาดีจริงหรือไม่ ถ้าไม่ดี ชาวพุทธ เจ้าหน้าที่ ตำรวจ หมอผี หรือใครก็ได้ไม่สามารถทำอะไรลัทธินี้ได้เลยหรือ ถ้าไม่ดีจะมีคนเลื่อมใสศรัทธามากขนาดนี้เลยหรือ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
นิกาย ลัทธิ ความเชื่อที่ไม่ถูกต้อง มีได้ก็เพราะมี จิต เจตสิก เป็นสภาพธรรมที่มีจริง ที่เป็นความเห็นผิดนั่นเอง ซึ่ง ความเห็นผิด ไม่ได้มีมาเฉพาะสมัยนี้ ตราบใดที่ใจของสัตว์โลก ยังหนาด้วยกิเลส และโลกยังมีอยู่ แม้อดีต ความเห็นผิดก็มีมาแล้ว ปัจจุบัน ก็มีความเห็นผิด และอนาคตก็จะมีความเห็นผิด คู่ไปกับโลกตลอดไป เพราะสังสารวัฏฏ์ ก็ย่อมคู่กิเลส ความเห็นผิด เพราะสังสารวัฏฏ์ การเกิด ตาย มีได้ ก็เพราะมีกิเลส มีความเห็นผิด เป็นต้น ครับ
ดังนั้นถ้าหากเข้าใจถูกอย่างนี้ ก็เห็นว่าเป็นธรรมดาเหลือเกินที่มีความเห็นผิด แม้สมัยพุทธกาล และก่อนพุทธกาล ก็มีความเห็นผิดมากมาย มีครูทั้ง ๖ เป็นต้น และผู้คนก็นับถือความเห็นผิดด้วย เพราะเหตุไร เพราะสัตว์โลกย่อมน้อมไปในที่ต่ำ คือ อำนาจกิเลส ดังนั้น จึงมีการเลื่อมใส นับถือ ความเห็นผิดมากกว่าความเห็นถูก แม้แต่สมัยพุทธกาล ครับ
สัตว์จึงคบค้าสมาคมกันโดยธาตุ คือ ตามอุปนิสัยที่สะสมมา ดังนั้นที่มีผู้คนเลื่อมใสนับถือ ความเห็นผิดมาก ก็เพราะคนเหล่านั้น สะสมความเห็นผิดมาเช่นกัน ธรรมจึงต้องมีเหตุ เพราะโดยมาก สัตว์โลกมากไปด้วยความไม่รู้และความเห็นผิด จึงทำให้มีการเลื่อมใสกันมาก มากกว่าความเห็นถูกเป็นธรรมดา ทุกยุค ทุกสมัย ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ครับ
ดังนั้น ใครจะทำอะไรได้ นอกจากสภาพธรรมก็เป็นไปอย่างนั้น ความเห็นผิด ก็ต้องอยู่คู่กับโลก เช่นเดียวกับความเห็นถูก ใครสะสมมาอย่างไร ก็เป็นไปอย่างนั้น จึงไม่มีใครทำอะไรได้ เพราะไม่มีใครให้ทำ มีแต่ธรรมที่เกิดขึ้นเป็นไป ไม่มีใครที่เห็นผิด แต่เป็นสภาพธรรมที่เป็นอกุศลธรรม คือ ความเห็นผิดเกิดขึ้น
การจัดการ ก็เป็นเรื่องเหลือวิสัย เพราะผู้ที่สะสมความเห็นผิดมา ก็ต้องเป็นไปอย่างนั้น รวมกลุ่มกัน การจัดการที่ถูกต้อง คือ ใจของเราที่จะเข้าใจความจริงที่เกิดขึ้นที่เข้าใจถูก ว่าสัตว์โลกที่มีความเห็นผิดกัน ก็เพราะ มีความไม่รู้ คือ อวิชชาเกิดขึ้น เพราะถ้ารู้ ย่อมไม่เห็นผิด จึงควรเห็นใจ และเข้าใจสัตว์โลกที่เห็นผิดว่า เพราะไม่รู้จึงเป็นอย่างนั้น ก็รักษาใจของเราด้วยความเข้าใจด้วย ครับ
สำคัญที่สุด คือ อบรมปัญญา ความเห็นถูก ของตนเองที่จะให้เข้าใจพระธรรมถูกต้อง เพราะความเห็นถูกที่เจริญขึ้น ย่อมรู้ตามความเป็นจริง และไม่หวั่นไหวในสิ่งที่เห็น ได้ยิน และก็จะเป็นที่พึ่งที่แท้จริง คือ ปัญญา ความเห็นถูก อันเกิดจากการศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรม ครับ
ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ความเห็น มี ๒ อย่าง คือ ความเห็นถูก กับ ความเห็นผิด ซึ่งมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ความเห็นผิด (มิจฉาทิฏฐิ) เป็นความเห็นที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง เป็นความเห็นที่ไม่ตรงตามความเป็นจริง [ความเห็นผิด ไม่ได้มีเฉพาะในยุคนี้ สมัยนี้เท่านั้น มีมาแล้วทุกยุคทุกสมัย] ซึ่งจะเห็นได้ว่า ความเห็นผิดเป็นกิเลสที่อันตรายมาก มีโทษมาก เพราะว่า เมื่อมีความเห็นผิดแล้ว กาย วาจา ใจ ย่อมเป็นไปในทางที่ผิด ตนเองเห็นผิดยังไม่พอ ยังแนะนำให้ผู้อื่นเห็นผิดตามไปด้วย ซึ่งเป็นอันตรายอย่างมากทีเดียว ทำให้จมอยู่ในห้วงของกิเลสเพิ่มมากยิ่งขึ้นด้วย ส่วนความเห็นถูก เป็นเรื่องของปัญญา เป็นสภาพธรรมที่เข้าใจถูก เห็นถูก, ความเห็นถูก เป็นเรื่องที่สำคัญ ถ้ามีความเห็นถูกแล้ว กาย วาจา ใจ ย่อมเป็นไปในทางที่ถูก คล้อยตามกำลังของความเข้าใจ ซึ่งความเห็นถูก จะค่อยๆ เจริญขึ้นได้ ก็เพราะอาศัยการศึกษา การฟังพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง บ่อยๆ เนืองๆ เป็นปกติในชีวิตประจำวัน ด้วยความละเอียด และรอบคอบ สะสมเป็นอุปนิสัยที่ดีต่อไป ความเข้าใจถูก เห็นถูกที่ได้สะสมไว้นี้ไม่สูญหายไปไหน สะสมสืบต่ออยู่ในจิตทุกขณะ การเดินทางในสังสารวัฏฏ์ยังต้องเป็นไปอีกนาน เพราะยังไม่ได้ดับกิเลสใดๆ ได้เลย ก็จะเป็นเหตุให้เป็นผู้มีความสนใจ เห็นประโยชน์ของการฟังพระธรรม สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกต่อไปอีก จนกว่าจะมีปัญญาเจริญขึ้นถึงความเป็นพระอริยบุคคลขั้นต่างๆ ได้ในที่สุด ซึ่งถ้าไม่เริ่มฟัง เริ่มศึกษา ตั้งแต่ขณะนี้เลย ก็จะไม่มีการฟัง การศึกษาในขณะต่อๆ ไปด้วย
เรื่องของคนอื่นก็เป็นเรื่องของคนอื่น เราไม่ใช่ผู้จัดการโลก ที่จะสามารถทำให้ทุกคนมีความเห็นถูกตรงตามความเป็นจริงของพระธรรมได้ เพราะแต่ละคนก็มีการสะสมที่แตกต่างกัน สะสมมาที่จะคล้อยตามไปในทางใดก็จะคล้อยไปในทางนั้น ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น เมื่อศึกษาพระธรรมมากขึ้น สะสมความเข้าใจมากขึ้น ก็จะสามารถเข้าใจถึงสภาพความเป็นจริงของธรรมมากขึ้น เพราะไม่มีคน ไม่มีสัตว์ มีแต่ธรรมที่เกิดขึ้นเป็นไป เท่านั้น
ในสมัยปัจจุบันนี้ พระธรรมยังดำรงอยู่ ผู้ที่มีปัญญาแสดงธรรมตามที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ก็มีอยู่ จึงเป็นโอกาสที่มีค่ายิ่งในชีวิต ที่จะได้ศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดง แล้วน้อมประพฤติปฏิบัติเพื่อขัดเกลากิเลสในชีวิตประจำวัน ซึ่งสามารถเริ่มได้ตั้งแต่ในขณะนี้ ถ้ามีการฟัง มีการศึกษาพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดงแล้วมีความเข้าใจที่ถูกต้อง การที่จะมีการกระทำในสิ่งผิดๆ การคล้อยตามในสิ่งผิดๆ ไม่ตรงตามพระธรรมคำสอน ก็จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย มีแต่จะเป็นไปเพื่อความเจริญขึ้นของกุศลธรรมในชีวิตประจำวัน ครับ.
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขออนุโมทนาค่ะ
ในพระไตรปิฎกมีแสดงไว้
อาจารย์สัญชัยที่เคยเป็นอาจารย์ของท่านพระสารีบุตรได้ถามท่านพระสารีบุตรว่า คนโง่ กับ คนฉลาด อย่างไหนมีมากกว่ากัน
ท่านพระสารีบุตรตอบว่า คนโง่มีมากกว่า
อาจารย์สัญชัยบอกว่า คนโง่ให้มาหาเรา ส่วนคนฉลาดให้ไปหาพระสมณโคดม ค่ะ
กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ
ก่อนหน้านี้รู้สึกไม่ชอบนิกายที่เจ้าของกระทู้กล่าวถึงมากๆ
แต่หลังจากได้ฟังธรรมะศึกษาธรรมะที่ถูกต้องแล้ว
ก็รู้สึกว่าน่าเห็นใจท่านเหล่านั้นที่มีความเห็นผิดครับ
ขออนุญาตร่วมแสดงความคิดเห็นด้วยนะครับ
ถ้าเป็นกุศลจริงๆ ก็จะต้องไม่มีโทษเลยทั้งต่อตนเองและผู้อื่น ซึ่งต้องประกอบด้วยปัญญาที่สะสมมาดีแล้ว ทำกิจพิจารณาว่า สิ่งใดมีคุณ สิ่งใดมีโทษ
ถ้าหากผู้ทำทานนั้น มีเจตนาที่จะละความตระหนี่ก็จริง แต่ผู้รับนั้นรับด้วยโลภะจิต มีจิตที่อยากได้และยินดีในลาภสักการะนั้น ... ลาภนั้นก็มีโทษอย่างยิ่งแก่ผู้รับ ดังคำที่กล่าวว่า "ลาภ สักการะ นั้นเป็นของเผ็ดร้อน" ลาภนั้นย่อมเผาผลาญจิตของผู้รับด้วยอวิชชาความไม่รู้ เป็นเหตุให้เกิดความติดข้องยินดีอย่างยิ่ง และเป็นเหตุให้นำไปสู่อบายภูมิได้ไม่ยากเลย
ขออนุโมทนาในกุศลจิตทุกท่านครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาทุกท่านค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
"ความเห็นถูกไม่ได้วัดกันที่จำนวนคนมาก"
ขอบคุณ และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ