สนทนาธรรมที่เวียดนามครั้งที่ 12 (ตอนที่ 4)
โดย kanchana.c  23 พ.ค. 2561
หัวข้อหมายเลข 29759

สนทนาธรรมที่เวียดนามครั้งที่ 12 (ตอนที่ 4)
ฮานอย นินห์บินห์
17 พ.ค. 2561 - 27 พ.ค. 2561

เดินทางจากฮานอยมาพักที่จังหวัดนินห์บินห์วันนี้เป็นวันที่ 3 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายแล้ว ได้พักที่ Emeralda Resort รีสอร์ตระดับ 5 ดาว ที่มีลักษณะเหมือนวังเก่าในสวนป่าขนาดใหญ่ มีต้นไม้นานาพันธุ์ ทั้งไม้ดอก ไม้ประดับ เช่น จำปี ประยงค์ และที่ไม่รู้จักชื่ออีกหลายชนิด ต่างออกดอกเต็มต้นส่งกลิ่นหอมรวยริน รวมทั้งป่าไผ่ ต้นปาล์ม

บ้านที่พักทำเป็นหลังๆ รวมกันเป็นกลุ่มๆ เป็นอาคารชั้นเดียวก่อด้วยอิฐเลียนแบบของเก่า มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ทั้งในร่มและกลางแจ้ง สนามกอล์ฟ ทะเลสาบ ทุกอย่างสะดวกสบาย เสียดายจังที่พักเพียง 2 คืน ก็คงเป็นปกติของเราอย่างนี้เพราะเวลาทำทานด้วยของที่เลิศนั้นน้อยกว่าทำทานด้วยของธรรมดาเหมือนที่เราใช้สอย แต่ไม่ว่าจะได้รับผลที่เลิศอย่างไร ก็เพียงชั่วขณะที่เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส กระทบสัมผัสเท่านั้น สั้นแสนสั้น เพียงเกิดขึ้นแล้วดับไป ไม่กลับมาอีกเลย ทิ้งไว้แต่ความติดข้องจนเสียดายที่พักเพียง 2 คืน 3 วัน ทั้งโลภะ โทสะเกิดขึ้นทำกิจหน้าที่ด้วยความเป็นเรา ยังไม่รู้จริงๆ ว่า ทั้งเห็น ทั้งได้ยิน ทั้งติดข้อง ทั้งเสียดายนั้นล้วนเป็นธรรมแต่ละหนึ่งที่เกิดขึ้นทำกิจหน้าที่ของตนแล้วดับไปทันที ไม่กลับมาอีกเลยในสังสารวัฏฏ์ ว่างเปล่าจากความเป็นเรา เป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด

เมื่อได้ฟังท่านอาจารย์พูดว่า ถ้าเข้าใจธรรมบ้างแล้วก็จะเริ่มเป็นปกติขึ้นเรื่อยๆ ถ้าผิดปกติเมื่อไหร่คือยังเป็นเรา ยังไม่รู้จริงๆ ว่า แต่ละขณะนั้นเป็นธรรม ไม่ใช่เรา เกิดเพราะเหตุปัจจัย บังคับบัญชาไม่ได้ เกิดแล้วจึงปรากฏให้รู้ เกิดแล้วเป็นอย่างนั้น จะเปลี่ยนแปลงให้เป็นอย่างอื่นได้อย่างไร ด้วยเหตุนี้ จึงไม่ลังเลที่จะออกไปเที่ยวดูชมสถานที่ต่างๆ ที่คุณไทจัดให้เที่ยวชม ไม่เหมือนเดิมที่ลังเลนิดหน่อยว่าจะอยู่ฟังสนทนาธรรมหรือไปเที่ยวดี แต่แม้จะลังเลอย่างไร ในที่สุดก็ตัดสินใจไปเที่ยวอยู่ดี ตามการสะสม เพราะคิดว่าคงไม่ได้มาอีก

ตอนบ่ายจึงได้ไปเที่ยวชมตั้มก๊อก ที่คนไทยเรียกว่า ฮาลองบก ซึ่งได้รับการจัดให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติในปี 2012 ตั้มก๊อก แปลว่า 3 ถ้ำ เพราะต้องนั่งเรือล่องไปตามแม่น้ำสายเล็กๆ ผ่านภูเขาหินปูนที่ดูสลับซับซ้อน 2 ฝั่งลำน้ำ ข้างทางเป็นทุ่งข้าวที่กำลังออกรวงใกล้แก่ เห็นเป็นสีเขียวอมเหลือง เมื่อลมพัดจะได้กลิ่นหอมของข้าวใหม่ บางแห่งเหมือนถูกโอบล้อมด้วยภูเขา ไม่มีทางไปข้างหน้า แต่ก็สามารถผ่านไปได้ เพราะมีทางลอดเข้าถ้ำเล็กๆ เตี้ยๆ คนตัวสูงต้องก้มศีรษะ เป็นอย่างนี้ถึง 3 แห่ง ล่องเรือชมธรรมชาติด้วยเรือเล็กที่ใช้เท้าถีบไปกลับประมาณ 2 ชั่วโมง ก็จบการเที่ยวชม ต่างกับที่จินตนาการไว้หลังจากดูสารคดีท่องเที่ยวเวียดนาม คาดว่าจะใหญ่โตและสวยงามกว่านี้ด้วยทุ่งข้าวสีทองสุดลูกหูลูกตาและทิวเขาสลับซับซ้อนเหมือนที่ฮาลองเบย์ ซึ่งกว่าเขาจะได้ภาพโฆษณาสวยงามนั้นต้องใช้ความพยายามมากแค่ไหน ก็พิสูจน์ให้เห็นชัดเจนว่า สิ่งที่ปรากฏให้เห็นทางตากับความคิดถึงสิ่งที่เห็นนั้นต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่ก็ได้มาเห็นเหมือนที่อยากเห็นแล้ว แต่การเห็นนั้นยังห่างไกลจากการเห็นที่ประเสริฐมาก เพราะเห็นนั้นยังเป็นเราเห็น ยังไม่ใช่เห็นเป็นธรรม เกิดขึ้นเพียงเห็นเท่านั้นแล้วดับไป

วันรุ่งขึ้นไปเที่ยวชมวัดไบ่ดินห์ ซึ่งปัจจุบันเป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนาม นินห์บินห์เคยเป็นเมืองหลวงอยู่ 42 ปี ก่อนจะย้ายมาฮานอย กษัตริย์ในสมัยนั้นเลือกนินห์บินห์เป็นเมืองหลวง เพราะล้อมรอบด้วยภูเขา ตั้งอยู่บนสามเหลี่ยมแม่น้ำแดง (ไหลต่อมาจากแม่น้ำเหลืองของจีน มาถึงเวียดนามเปลี่ยนเป็นสีแดง เพราะดินจากน้ำป่าหลาก) อุดมด้วยป่าไม้ กษัตริย์ราชวงศ์ต่อมาเลือกฮานอยเป็นเมืองหลวงเพราะมีบริเวณกว้างใหญ่กว่า ฮานอยเป็นเมืองหลวงถึงปัจจุบันยาวนานกว่า 1000 ปีแล้ว วัดไบ่บินห์เดิมเป็นเจดีย์เล็กๆ บนยอดเขาที่ขุนนางสร้างขึ้นบูชาเทพเจ้า หลังจากขอให้หาสมุนไพรที่สามารถช่วยรักษาพระราชาที่ป่วยหนักให้หายได้ ต่อมาในปี 2006 ทางจังหวัดนินห์บินห์พร้อมประชาชนร่วมกันบริจาคเงินจำนวนมหาศาลสร้างวัดที่ใหญ่ที่สุดแห่งนี้แล้วเสร็จในปี 2010 มีเจ้าของโรงเลื่อยบริจาคไม้ทั้งหมดคิดเป็นเงินไทย 1300 ล้านบาท มีผู้ไม่ประสงค์ออกนามบริจาคอีกมากเพราะไม่อยากให้รู้แหล่งที่มาของเงิน ปัจจุบันรัฐบาลห้ามก่อสร้างวัดขนาดใหญ่อีก (ข้อมูลจากไกด์เวียดนามที่พูดภาษาไทยได้ ไม่ได้ตรวจสอบอีก จะจริงเท็จอย่างไรไม่รับรอง แต่คงไม่สำคัญอะไร เพราะในที่สุดก็ไม่มีอะไรจริง นอกจากปรมัตถธรรม)

ตอนบ่ายไปเที่ยวโบสถ์หินที่สร้างในสมัยที่ฝรั่งเศสปกครองเวียดนามเมื่อ 100 กว่าปีก่อน เป็นโบสถ์คริสต์คาธอลิก ไม่ใหญ่โตมากนัก แต่ก็สะอาดสะอ้าน มีต้นลำใยเก่าแก่อายุเท่ากับโบสถ์ปลูกโดยรอบ ไม่ได้ดูอะไรมาก เพราะจะเปิดโบสถ์ให้ชมในวันสำคัญเท่านั้น ที่สำคัญคือสองข้างทางจากรีสอร์ตไปโบสถ์นั้นสวยงามด้วยทุ่งข้าวสีเขียวอมเหลืองกว้างใหญ่สุดหูสุดตา สลับกับภูเขาหินปูนรูปร่างสวยงามแปลกตา

บางแห่งมีลำคลองขนาบข้าง มีต้นตะแบกออกดอกสีม่วงเข้ม ต้นหางนกยูงออกดอกสีส้มสด สลับกับใบสีเขียวสด เพลิดเพลินไปกับสิ่งปรากฏทางตาที่สวยงาม เคล้ากับเสียงเพลงไทยไพเราะจากยูทูป ช่างน่ารื่นรมย์จริงๆ เชื่อแล้วว่า ตา หู จมูก ลิ้น กายนั้นไม่เคยอิ่มกับอารมณ์ที่น่าเพลิดเพลินเลย เห็นเท่าไรก็ยังไม่พอ สวยเท่านี้แล้ว อยากเห็นสวยมากกว่านี้แล้ว แล้วอีกกี่อสงไขยกัปจึงจะขัดเกลาความติดข้องด้วยความไม่รู้ได้ คิดด้วยความเป็นเราอีกแล้ว จำไม่ได้อีกแล้วว่า แม้คิดอย่างนี้ก็เป็นธรรม คิดแล้วดับไปแล้ว ต้องฟังแล้วฟังต่อไปอีกเท่านั้นเอง

.........

ขอเชิญท่านที่สนใจฟังการสนทนาธรรมภาคภาษาอังกฤษที่นินห์บินห์ในครั้งนี้ ติดตามชมคลิปวีดีโอการสนทนาธรรมที่บันทึกไว้ในเฟซบุ๊คของ Vietnam Dhamma Home โดยคลิกที่นี่...Vietnam Dhamma Home

และ ติดตามชมตอนที่ผ่านมาทั้งหมดได้ โดยคลิกที่นี่.....

สนทนาธรรมที่เวียดนามครั้งที่ 12
สนทนาธรรมที่เวียดนามครั้งที่ 12 (ตอนที่ 2)
สนทนาธรรมที่เวียดนามครั้งที่ 12 (ตอนที่ 3)



ความคิดเห็น 1    โดย ปลากริม  วันที่ 23 พ.ค. 2561

กราบอนุโมทนาด้วยความเคารพยิ่งครับ


ความคิดเห็น 2    โดย มกร  วันที่ 23 พ.ค. 2561

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 3    โดย papon  วันที่ 23 พ.ค. 2561

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 4    โดย ธนฤทธิ์  วันที่ 24 พ.ค. 2561

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 5    โดย pulit  วันที่ 24 พ.ค. 2561

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 6    โดย orawan.c  วันที่ 24 พ.ค. 2561

กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 7    โดย j.jim  วันที่ 25 พ.ค. 2561

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 8    โดย ปาริชาตะ  วันที่ 25 พ.ค. 2561

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 9    โดย Boonyavee  วันที่ 26 พ.ค. 2561

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 10    โดย Boonyavee  วันที่ 26 พ.ค. 2561

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 11    โดย chvj  วันที่ 31 พ.ค. 2561

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 12    โดย thilda  วันที่ 3 มิ.ย. 2561

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ