ขอเรียนถามว่า ทุกวันนี้ คนเรามีชีวิตอยู่ เพราะ กรรมจัดสรร ให้เป็นไปตามการสะสม ไม่ว่ายากดีมีจน จริงหรือ และจะสร้างเหตุอย่างไรไม่ให้ต้องพบกับอศุลกรรมต่อไป
พระพุทธพจน์มีว่า กรรมย่อมจำแนกสัตว์ให้ทรามหรือประณีต สัตว์ทั้งหลายย่อมเป็นไปตามกรรม พระอรหันต์เป็นผู้สิ้นกรรมทั้งหมด ดังนั้น ถ้าต้องการพ้นจากกรรมทั้งหมดก็จะต้อง สร้างเหตุที่ดีอันจะเป็นหนทางเพื่อการดับกรรมและวิบากทั้งปวง ด้วยการสะสมอบรมเจริญปัญญา เจริญอริยมรรคมีองค์ ๘ จนถึงความเป็นพระอริยบุคคลขั้นสูงสุด คือพระอรหันต์
เป็นหัวข้อที่น่าสนใจ
ขออนุโมทนา
สำหรับผมต้องอาศัยศรัทธา และโยนิโสมนสิการไปก่อนครับ ในเรื่องกรรมและผลของกรรม สูตรในการไม่ให้ต้องพบอกุศลกรรม คือ ไม่เคยทำอกุศลกรรม ซึ่งเป็นไปไม่ได้ครับ แต่แม้สามารถเว้นขาดจากอกุศลกรรมได้เด็ดขาดแล้วในปัจจุบัน แต่ถ้าอกุศลกรรมที่เคยทำจะให้ผลก็ต้องให้ผลครับ มีแต่นิพพานเท่านั้นที่จะไม่ต้องพบกับอกุศลวิบากและกุศลวิบากต่อไป ตามที่ผมเข้าใจมาครับ
อยากได้ความเห็นที่กระจ่างกว่านี้ เพราะ ทุกคนต่างก็อยากมีชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งทางโลกและทางธรรม เหมือนกับว่า ยืนอยู่เฉยๆ (เหมือนกับอยู่ในกลุ่มมวลชน) เดียวแรงผลักแรงดันก็จะพาคุณไปเอง น่าจะมีอะไรที่มากกว่านี้นะ
ขออนุโมทนากุศลจิตทุกท่านค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
อาจจะสงสัยว่า เพราะ กรรมจัดสรร ให้เป็นไปตามการสะสม ไม่ว่ายากดีมีจน จริงหรือ การที่เกิดมาเป้นคนยากจน คนร่ำรวยก็เพราะผลของกรรมที่ได้ทำไว้ ควรคิดว่าทำไมเราถึงต้องเกิดมาในครอบครัวที่ยากจน ถ้าเลือกได้เราก็คงไม่เลือกมาเกิดในครอบครัวที่ยากจน แต่ธรรมทุกอย่างต้องมีเหตุจึงเกิดขึ้นเพราะไม่ให้ทาน เพราะไม่ทำบุญ เป็นคนตระหนี่ ผลก็ต้องเป็นคนที่ยากจน เกิดในครอบครัวที่ยากจน ใครทำให้ ใครเลือกให้ ถ้าไม่ใช่กรรมของตนเองที่ทำไว้เท่านั้นครับ และจะสร้างเหตุอย่างไรไม่ให้ต้องพบกับอศุลกรรมต่อไป
คำว่าพบกับอกุศลกรรมหมายถึงได้รับผลของกรรม เช่น เห็นสิ่งที่ไม่ดี ได้ยินสิ่งที่ไม่ดี เป็นต้น การเห็นสิ่งที่ไม่ดี ได้ยินสิ่งที่ไม่ดีที่เป้นผลของกรรมที่ไม่ดี ก็เพราะทำเหตุที่ไม่ดีมาคืออกุศลกรรม เพราะเกิดใช่ไหมครับ จึงมีการเห็นที่ไม่ดี ได้ยินสิ่งที่ไม่ดี ถ้าไม่เกิดจะมีการเห็นสิ่งที่ไม่ดีไหม จะได้ยินสิ่งที่ไม่ดีไหม จะต้องเจ็บปวดหรือเปล่าครับ เพราะมีการเกิด มีขันธ์ ๕ เกิดขึ้น จึงเป็นปัจจัยให้ต้องได้รับผลของกรรมที่ดีและไม่ดีบ้าง พระพุทธเจ้าดับกิเลสแล้วเมื่อพระองค์ยังทรงพระชนม์อยู่ พระองค์ก็ต้องเห็นสิ่งที่ไม่ดี ต้องเจ็บปวดเพราะโรคภัยเบียดเบียน เพราะอะไร เพราะยังมีขันธ์ ๕ ยังเกิดอยู่ ผู้ที่จะไมได้รับผลของกรรมที่ไม่ดีอีกเลย ก็คือผู้ที่ไม่เกิด คือดับกิเลสหมดอันเป็นสาเหตุแห่งการเกิดและปรินิพพาน เหตุที่จะไม่ต้องพบกับผลของอกุศลกรรมอีก คือการไม่เกิดด้วยการอบรมปัญญา (อริยมรรค ๘) จนปรินิพพานครับ
ขออนุโมทนา
อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
แต่ละบุคคลที่เกิดมาในแต่ละภพแต่ละชาตินั้น ไม่เหมือนกันเลย ทั้งการสะสมและการได้รับผลของอดีตกรรมที่ได้กระทำมาแล้ว การจะได้รับสิ่งที่ดี ที่น่าปรารถนา น่าใคร่น่าพอใจในชีวิตประจำวันนั้น เป็นผลของกุศล เป็นไปไม่ได้เลยที่กุศลจะให้ผลเป็นสิ่งที่ไม่ดี ในทางตรงกันข้ามเมื่อถึงคราวที่อกุศลกรรมให้ผล (ไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้ ไม่ว่าจะอยู่ ณ ที่ใดก็ตาม) ย่อมทำให้ได้รับสิ่งที่ไม่ดี ไม่น่าปรารถนา ตามสมควรแก่กรรมที่ได้กระทำมาแล้วนั่นเอง บุคคลผู้ที่เห็นประโยชน์ของกุศลธรรม เห็นประโยชน์ของการศึกษาพระธรรม สะสมปัญญา ซึ่งเป็นความเข้าใจถูกเห็นในพระธรรมตามความเป็นจริง ย่อมจะเป็นผู้งดเว้นจากการกระทำกรรมชั่ว แล้วสะสมแต่กรรมที่ดีงาม เป็นผู้ไม่ประมาทในการดำเนินชีวิตในแต่ละวันๆ พร้อมทั้งฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญา เพื่อประโยชน์สูงสุดคือการดับกิเลสทั้งหลายทั้งปวงซึ่งเป็นเหตุแห่งทุกข์ในวัฏฏะได้อย่างเด็ดขาดในที่สุด ไม่ต้องมีการเกิดอีก (ซึ่งเป็นการอบรมเจริญปัญญาที่ต้องอาศัยกาลเวลาอันยาวนานทีเดียวกว่าจะถึงวันนั้นได้) เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะเกิดในตระกูลใด ฐานะใด มีชีวิตความเป็นอยู่อย่างไร ไม่เป็นเครื่องกั้นของการอบรมเจริญปัญญา เลย ขึ้นอยู่กับว่าผู้นั้นจะเห็นประโยชน์หรือไม่ เท่านั้นเอง
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ
ก่อนที่เราจะสร้างเหตุอย่างไรไม่ให้พบกับผลของอกุศลกรรมนั้น เราควรศึกษาพระธรรมให้เข้าใจว่า ธรรมคืออะไร ... ธรรมที่เป็นเหตุคืออะไร ได้แก่ อะไร .... เพราะธรรมอะไรเป็นเหตุ ธรรมที่เป็นผลจึงเกิดเพราะธรรมที่เป็นเหตุอย่างนั้นๆ "กรรม" เป็นธรรมหรือไม่ กรรมคืออะไร เหล่านี้เป็นต้น พระธรรมเป็นเรื่องที่ละเอียด และเป็นเรื่องของการ
อบรมเจริญปัญญาเพื่อเข้าใจ เพื่อรู้ เพื่อน้อมประพฤติปฏิบัติตาม เพื่อละ ตามลำดับตั้งแต่เบื้องต้นไปจนถึงที่สุด ปัญญาที่อบรมแล้วเท่านั้น ที่จะรู้ตามเป็นจริงถึงเหตุและผลของธรรม เป็นเรื่องของการอบรมซึ่งใช้เวลายาวนาน ไม่เร็ว และสวนกระแสกับความต้องการผลครับ
กรรม คือ คำนิยาม ของสิ่งที่รู้ไม่ได้ ซึ่งเป็น อจิญไตย
กรรมกำหนดสิ่งต่างๆ ให้เรา พิสูจน์ได้จากว่า การที่เราต้องเกิดมา สวย รวย สมองดี แข็งแรง ไม่พิการ อยู่ในประเทศไทย หรือไม่อย่างไรนั้น ไม่มีใครในโลกนี้กำหนดได้จริงๆ ครับ ไม่มีจริงๆ จึงต้องยกเอาคำว่า "กรรม" มาเป็นบัญญัติ เพื่อรับกับความหมายของ "นามธรรม ที่เป็น สิ่งไม่อาจรู้ได้ ซึ่งเป็น อจิญไตย" ถ้าไม่เป็นคำว่า กรรม ก็ต้องเป็นคำๆ อื่น ที่บัญญัติขึ้นมาใหม่อยู่ดีนั่นแหละครับ
อกุศล ก็เป็นธรรมะอย่างหนึ่ง จะเกิดกับเราเมื่อไหร่ ที่ไหน อย่างไร ไม่มีใครรู้เช่นกัน แต่อธิบายได้ว่า เกิดมาจากกรรม
แม้มีปัญญา ที่เราสร้างเองได้ แต่ปัญญาก็ มีอุปสรรคคือกรรม ทำให้ปัญญาเกิดล่าช้าออกไปได้อยู่ดี จนกว่าเมื่อเรา ชดใช้ผลของกรรม (วิบากกรรม) จนหมดแล้ว กรรมจึงจะยอมให้เรามีปัญญาเกิดขึ้นได้ กล่าวอีกนัยหนึ่ง คือ ถึงเราพยายามสุดชีวิต ปัญญาก็อาจจะไม่เกิด ถ้ายังมีกรรมบดบังอยู่ ตัวอย่างเช่น กรรมทำให้เราเกิดมาตาบอด ปัญญาอ่อน อายุสั้น เกิดในที่ๆ ไม่มีโอกาสศึกษาพุทธธรรม
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ