พระผู้มีพระภาคฯ ทรงเสวยเนื้อ เพราะว่ากลิ่นดิบไม่ใช่กลิ่นเนื้อ กลิ่นปลา แต่กลิ่นดิบเป็นกลิ่นของกิเลส ขณะนี้ทุกคนไม่ได้กลิ่นกิเลสเลย คือไม่รู้ว่า กิเลสเป็นสภาพธรรม ที่น่ารังเกียจ ทุกคนเพียงแต่ได้กลิ่นเนื้อดิบ กลิ่นปลาดิบ เท่านั้น
แต่พระผู้มีพระภาคฯ ทรงแสดงว่า กลิ่นดิบ คือกิเลส ฉะนั้นผู้ที่บริโภคอาหารเนื้อโดยอบรมเจริญปัญญาดับกิเลสเป็นสมุจเฉท เช่น พระผู้มีพระภาคฯ และพระอรหันต์ทั้งหลาย จึงไม่มีกิเลส ไม่มีกลิ่นดิบ ฉะนั้น ควรรังเกียจกลิ่นกิเลส ไม่ใช่รังเกียจกลิ่นของเนื้อสัตว์
ที่ถามว่า การรับประทานอาหารมังสวิรัติ และการกินเจนั้น จำเป็นแค่ไหน ก็ย่อมแล้วแต่บุคคล บางท่านบริโภคแล้ว สุขภาพร่างกายแข็งแรงดี ก็พอใจที่จะบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพของร่างกาย แต่ต้องพิจารณากิเลสในขณะที่กำลังกินเจ หรืออาหารมังสวิรัติว่า รู้สึกติด พอใจในรสอร่อยไหม ความติดความพอใจนั่นแหละเป็นกลิ่นดิบแล้ว ฉะนั้น จึงต้องพิจารณาธรรมะโดยละเอียดจริงๆ ไม่ใช่พิจารณาเพียงอาการที่ปรากฏภายนอกเท่านั้น และที่ถามว่า ถ้าไม่กินเจจะทำให้ศีลบริสุทธิ์ได้ หรือไม่นั้นตอบว่า ได้ เมื่อพิจารณาจิตและสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ เพื่อรู้ชัดในสภาพธรรมะทั้งหลายตามความเป็นจริง
อนุโมทนาค่ะ
แค่กินอาหารมังสวิรัต คงไม่ได้เจริญกุศลอะไรจริงๆ
สาธุ
ขออนุโมทนาครับ
ดีจังเลยอธิบายได้เข้าใจง่ายครับ
ขอบคุณครับ
ขอขอบคุณครับ ...
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
กราบอนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาค่ะ