ไม่เข้าใจโนจเมสิยาสูตรครับ
โดย จำแนกไว้ดีจ๊ะ  27 ม.ค. 2552
หัวข้อหมายเลข 10991

อ่านโนจเมสิยาสูตร (พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค เล่ม ๓ - หน้าที่ 464) ไม่เข้าใจครับ

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อรูปมีอยู่ เพราะถือมั่นรูป เพราะยึดมั่นรูป จึงเกิดทิฏฐิขึ้นอย่างนี้ว่า เราไม่พึงมี และบริขารของเราไม่พึงมี เราจักไม่มีและบริขารของเราจักไม่มี เมื่อเวทนามีอยู่.. เมื่อสัญญามีอยู่... เมื่อสังขารมีอยู่... เมื่อวิญญาณมีอยู่ เพราะถือมั่นวิญญาณ เพราะยืดมั่นวิญญาณ จึงเกิดทิฏฐิขึ้นอย่างนี้ว่าเราไม่พึงมี และบริขารของเราไม่พึงมี เราจักไม่มี และ บริขารของเราจักไม่มี

พ. ก็สิ่งใดไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา เพราะไม่ถือมั่นสิ่งนั้น พึงเกิดทิฏฐิขึ้นอย่างนี้ว่า เราไม่พึงมี และบริขารของเราไม่พึงมี เราจักไม่มี และบริขารของเราจักไม่มี ใช่ไหม

ภิ. ไม่พึงเกิดทิฏฐิขึ้นอย่างนั้นเลย พระเจ้าข้า

คำถาม คือ ไม่พึงเกิดทิฏฐิขึ้นเพราะทั้งยึดมั่น และไม่ยึดมั่นในขันธ์ หรือ



ความคิดเห็น 1    โดย prachern.s  วันที่ 27 ม.ค. 2552

การไม่ยึดมั่นในขันธ์จึงไม่เกิดทิฏฐิ เพราะยึดมั่นในขันธ์จึงเกิดทิฏฐิครับดังข้อความที่ว่า

.....เพราะไม่ถือมั่นสิ่งนั้น พึงเกิดทิฏฐิขึ้นอย่างนี้ว่า เราไม่พึงมี และบริขารของเราไม่พึงมี เราจักไม่มี และบริขารของเราจักไม่มี ใช่ไหม

ภิ. ไม่พึงเกิดทิฏฐิขึ้นอย่างนั้นเลย พระเจ้าข้า


ความคิดเห็น 2    โดย จำแนกไว้ดีจ๊ะ  วันที่ 27 ม.ค. 2552

ตามความคิดเห็นที่ 1

โปรดอธิบาย การไม่ยึดมั่นในขันธ์ จะไม่เกิดทิฏฐิอะไร? การไม่ถือมั่นในขันธ์ จะเกิด ทิฏฐิว่า เราไม่พึงมี และบริขารของเราไม่พึงมี เราจักไม่มี และบริขารของเราจักไม่มี หรือว่า ไม่เกิด ทิฏฐิว่า เราไม่พึงมี และบริขารของเราไม่พึงมี เราจักไม่มี และบริขารของเราจักไม่มี


ความคิดเห็น 3    โดย prachern.s  วันที่ 28 ม.ค. 2552
การไม่ยึดมั่นในขันธ์ จะไม่เกิดมิจฉาทิฏฐิอะไรๆ เลย

ความคิดเห็น 4    โดย จำแนกไว้ดีจ๊ะ  วันที่ 28 ม.ค. 2552

สาธุ


ความคิดเห็น 5    โดย b_bct  วันที่ 29 ม.ค. 2552

พระสูตรน่าสนใจมากครับจากข้อความที่ว่า เมื่อรูปมีอยู่ เพราะถือมั่นรูป เพราะยึดมั่นรูป จึงเกิดทิฏฐิขึ้นอย่างนี้ว่า เราไม่พึงมี..... คำว่า เราไม่พึงมี (ที่เป็นมิจฉาทิฏฐิอันเกิดเพราะยึดถือมั่นรูป) หมายถึงอะไรครับ และต่างจาก ไม่มีเรา (ที่ได้ยินอาจารย์พูดบ่อยๆ ) อย่างไรครับ


ความคิดเห็น 6    โดย prachern.s  วันที่ 30 ม.ค. 2552
คำว่า เราไม่พึงมี ในที่นี้หมายถึงมิจฉาทิฏฐิประเภทอุทเฉททิฏฐิครับ

ความคิดเห็น 7    โดย เมตตา  วันที่ 30 ม.ค. 2552

พ. ก็สิ่งใดไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา เพราะไม่ถือมั่นสิ่งนั้น พึงเกิดทิฏฐิขึ้นอย่างนี้ว่า เราไม่พึงมี และบริขารของเราไม่พึงมี เราจักไม่มี และบริขาร ของเราจักไม่มี ใช่ไหม

ภิ. ไม่พึงเกิดทิฏฐิขึ้นอย่างนั้นเลย พระเจ้าข้า

คำว่า เราไม่พึงมี ในที่นี้หมายถึง มิจฉาทิฏฐิประเภทอุทเฉททิฏฐิ ครับ

ขออนุโมทนาท่านอาจารย์ prachern.s ค่ะ


ความคิดเห็น 8    โดย จำแนกไว้ดีจ๊ะ  วันที่ 31 ม.ค. 2552
มิจฉาทิฏฐิประเภทอุทเฉททิฏฐิเป็นอย่างไรครับ โปรดอธิบาย

ความคิดเห็น 9    โดย prachern.s  วันที่ 31 ม.ค. 2552

มิจฉาทิฏฐิประเภทอุทเฉททิฏฐิ,คือ มีความเห็นผิดว่าขาดสูญ ตายแล้วสูญ ไม่มีการเกิดขึ้นของขันธ์อีก ไม่มีการรับผลของกรรมที่ทำไว้ในชาตินี้ฯ...


ความคิดเห็น 10    โดย จำแนกไว้ดีจ๊ะ  วันที่ 2 ก.พ. 2552

- การเห็นถูกในความดับของขันธ์ เป็นอย่างไร

- การเกิดขึ้นของขันธ์อีกเป็นอย่างไร

- การได้รับผลของกรรมที่ทำไว้ในชาตินี้ ในการเกิดขึ้นของขันธ์อีกเป็นอย่างไร

เชิญท่านสนทนาธรรม ขออนุโมทนา


ความคิดเห็น 11    โดย prachern.s  วันที่ 2 ก.พ. 2552

- เพราะความดับเหตุของขันธ์ ขันธ์จึงไม่เกิดขึ้นอีก (นิโรธะ)

- การเกิดขึ้นของขันธ์อีกเพราะมีเหตุให้เกิดขึ้น ขันธ์จึงเกิดขึ้น

- วิบากจิต วิบากเจตสิก กัมมชรูป ที่เกิดขึ้นเพราะกรรมเป็นปัจจัย


ความคิดเห็น 12    โดย จำแนกไว้ดีจ๊ะ  วันที่ 2 ก.พ. 2552

- การเกิดขึ้นของขันธ์อีก เพราะมีเหตุให้เกิดขึ้น ขันธ์จึงเกิดขึ้น

หมายความว่า ขันธ์ดับไปแล้ว แต่เหตุเกิด ขันธ์จึงเกิดหรือ?

หมายความว่า ขันธ์ไม่ดับหรือ เหตุไม่ดับหรือ?


ความคิดเห็น 13    โดย prachern.s  วันที่ 2 ก.พ. 2552

ขันธ์ทั้งห้าเกิดดับทุกขณะ เพราะมีปัจจัยจึงเกิดสืบต่อยาวนานเป็นนาที เป็นชั่วโมง เป็นวัน เป็นเดือน เป็นปี หลายสิบปี เป็นชาติๆ หลายสิบร้อยพันชาติ เป็นกัปป์ๆ หลายแสนกัปป์จนนับไม่ถ้วน การเกิดสืบต่อยาวนานอย่างนี้เพราะมีเหตุคือ ตัณหา ขันธ์จึงเกิดขึ้น เมื่อดับตัณหาเสียได้ขันธ์ในชาติต่อไปจึงไม่เกิด


ความคิดเห็น 14    โดย จำแนกไว้ดีจ๊ะ  วันที่ 2 ก.พ. 2552

การเกิดดับสืบต่อกัน ที่เกิดก็เกิดไป ที่ดับก็ดับตาม ดังต้นไม้แตกหน่อ ดังต้นไม้เกิด เมล็ดงอกไปเต็มสวน แม้ดับขันธ์เก่าแล้ว ยังมีขันธ์ใหม่อีก กระทำกรรมแล้วจึงเกิด วิบาก กรรมชาตินี้เกิดวิบากชาติหน้า


ความคิดเห็น 15    โดย จำแนกไว้ดีจ๊ะ  วันที่ 3 ก.พ. 2552

ก่อนขันธ์ดับ ก็เป็นปัจจัยให้เกิดขันธ์ใหม่ขึ้นก่อน ดังหน่อและเมล็ด ดังจุดเทียนเล่ม ใหม่ แม้เทียนเล่มเก่าดับไปแต่เทียนเล่มใหม่ไม่ได้ดับตามไปด้วย ดังหน่อและเมล็ดที่งอกไปเต็มสวน ต้นไม้ที่ให้กำเนิดตายไปแล้ว แต่หน่อใหม่ไม่ตายตามไปด้วย ฉะนั้น สาธุ

ขออนุโมทนา