•••..... ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย .....•••... สนทนาธรรมที่ ...
•••..... มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา ....•••
พระสูตร ที่นำมาสนทนาที่มูลนิธิฯ
วันเสาร์ ๒๖ ก.พ. ๒๕๕๔ เวลา ๐๙.๐๐ - ๑๒.๐๐ น. คือ
กิมัตถิยสูตร
(ประพฤติพรหมจรรย์เพื่อรู้ทุกข์)
...จาก...
[เล่มที่ 30] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๓๐ - หน้าที่ ๒๐
...นำสนทนาโดย...
ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
[เล่มที่ 30] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๓๐ - หน้าที่ ๒๐
อวิชชาวรรคที่ ๑
๕. กิมัตถิยสูตร (ประพฤติพรหมจรรย์เพื่อรู้ทุกข์)
[๒๕] สาวัตถีนิทาน (เรื่องเกิดที่เมืองสาวัตถี) . ครั้งนั้นแล ภิกษุมากรูป เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอประทานพระวโรกาส พวกอัญญเดียรถีย์ปริพาชก ถามพวกข้าพระองค์อย่างนี้ ว่า ดูก่อนผู้มีอายุทั้งหลาย พวกท่าน อยู่ประพฤติพรหมจรรย์ ในพระสมณโคดม เพื่อประโยชน์อะไร พวกข้าพระองค์ถูกถามอย่างนี้แล้ว จึงพยากรณ์แก่พวกอัญญ-เดียรถีย์ ปริพาชกเหล่านั้นอย่างนี้ว่า ดูก่อนผู้มีอายุทั้งหลาย พวกเราอยู่ประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาคเจ้า เพื่อรู้ทุกข์ พวกข้าพระองค์ถูกถามอย่างนี้แล้วพยากรณ์อย่างนี้ ชื่อว่ากล่าวตามพระดำรัสที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้แล้ว ไม่กล่าวตู่พระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยคำไม่จริง พยากรณ์ธรรมสมควรแก่ธรรม ทั้งการคล้อยตามวาทะที่ถูกไรๆ จะไม่พึงถึงฐานะอันวิญญูชนพึงติเตียนได้ละหรือ?.
[๒๖] พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เป็นจริงอย่างนั้น พวกเธอถูกถามอย่างนั้นแล้ว พยากรณ์อย่างนั้น ชื่อว่า กล่าวตามคำที่เรากล่าวไว้แล้ว ไม่กล่าวตู่เราด้วยคำไม่จริง พยากรณ์ธรรมสมควรแก่ธรรม ทั้งการคล้อยตามวาทะที่ถูกไรๆ จะไม่ถึงฐานะอันวิญญูชนพึงติเตียนได้ เพราะพวกเธออยู่ประพฤติพรหม-จรรย์ในเรา เพื่อรู้ทุกข์.
[๒๗] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ถ้าพวกอัญญเดียรถีย์ปริพาชก พึงถามพวกเธออย่างนี้ว่า ดูก่อนผู้มีอายุทั้งหลาย ก็หนทางมีอยู่หรือ ปฏิปทาเพื่อรู้ทุกข์นั้นมีอยู่หรือ
พวกเธอถูกถามอย่างนี้แล้ว พึงพยากรณ์แก่พวก อัญญเดียรถีย์ ปริพาชกเหล่านั้นอย่างนี้ว่า ดูก่อนผู้มีอายุทั้งหลาย หนทางมีอยู่ ปฏิปทาเพื่อรู้ทุกข์นั้นมีอยู่.
[๒๘] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็หนทางเป็นไฉน ปฏิปทาเพื่อกำหนดรู้ทุกข์เป็นไฉนอริยมรรคประกอบด้วยองค์ ๘ นี้แล คือ สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ นี้เป็นหนทางนี้เป็นปฏิปทาเพื่อรู้ทุกข์นั้น ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พวกเธอถูกถามอย่างนั้นแล้วพึงพยากรณ์แก่พวกอัญญเดียรถีย์ปริพาชกเหล่านั้นอย่างนี้.
จบกิมัตถิยสูตรที่ ๕
อรรถกถากิมัตถิยสูตร
พึงทราบวินิจฉัยในกิมัตถิยสูตรที่ ๕ ดังต่อไปนี้ เอว ศัพท์ในบทว่า อยเมว มีอรรถแน่นอน ย่อมห้ามมรรคอื่นด้วย เอว ศัพท์นั้น. ในพระสูตรนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสทุกข์ในวัฏฏะและมรรคเจือปนกัน. จบอรรถกถากิมัตถิยสูตรที่ ๕.
(เพิ่มเติม พระสูตรอีก ๕ พระสูตร)
[เล่มที่ 30] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๓๐ - หน้าที่ ๖๙
อัญญติตถิยวรรคที่ ๕
๑. วิราคสูตร (ประพฤติพรหมจรรย์เพื่อสำรอกราคะ)
[๑๑๗] สาวัตถีนิทาน (เรื่องเกิดที่เมืองสาวัตถี) . พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ถ้าพวกอัญญเดียรถีย์ปริพาชก พึงถามเธอทั้งหลายอย่างนี้ว่า ดูก่อนผู้มีอายุทั้งหลาย ท่านทั้งหลาย อยู่ประพฤติพรหมจรรย์ในพระสมณโคดม เพื่อประโยชน์อะไร เธอทั้งหลายถูกถามอย่างนี้แล้ว พึงชี้แจงแก่พวกอัญญเดียรถีย์ปริพาชกเหล่านั้น อย่างนี้ว่า ดูก่อนผู้มีอายุทั้งหลาย เราทั้งหลาย อยู่ประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาคเจ้า เพื่อสำรอกราคะ. ในสังโยชนสูตรที่ ๒ แสดงว่า อยู่ประพฤติพรหมจรรย์ ในพระผู้มีพระภาคเจ้าเพื่อละสังโยชน์. ในอนุสยสูตร ที่ ๓ แสดงว่า อยู่ประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาคเจ้า เพื่อถอนอนุสัย. ในอัทธานสูตรที่ ๔ แสดงว่า อยู่ประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาคเจ้า เพื่อรู้สังสารวัฏฏ์อันยืดยาว. ในอาสวสูตรที่ ๕ แสดงว่า อยู่ประพฤติพรหมจรรย์ ในพระผู้มีพระภาคเจ้า เพื่อสิ้นอาสวะ.
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ข้อความโดยสรุป กิมัตถิยสูตร * (ประพฤติพรหมจรรย์เพื่อรู้ทุกข์) พระภิกษุทั้งหลาย เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า กราบทูลถามพระองค์ว่า เมื่อ (พวกข้าพระองค์) ถูกพวกอัญญเดียรถีย์ถามว่า อยู่ประพฤติพรหมจรรย์ ในพระสมณ-โคดม เพื่อประโยชน์อะไร ก็ได้ตอบไปว่า เพื่อรู้ทุกข์ การตอบอย่างนี้เป็นคำตอบที่ถูกต้องคล้อยตามพระดำรัสของพระองค์หรือไม่? พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสว่า เป็นจริงอย่างนั้น และได้ตรัสต่อไปว่า เมื่อถูกถามต่ออีกว่า หนทางที่เป็นเไปเพื่อรู้ทุกข์ มีหรือไม่พึงตอบว่า มี ซึ่งหนทางดังกล่าวนั้น คือ อริยมรรคประกอบด้วยองค์ ๘ มี สัมมาทิฏฐิ (ความเห็นชอบ) เป็นต้น. [หมายเหตุ คำว่า กิมัตถิยะ ซึ่งเป็นชื่อของพระสูตร หมายถึง เพื่อประโยชน์อะไร?มาจากคำว่า กึ (อ่านออกเสียงเป็น กิง แปลว่า อะไร) + อตฺถ (ประโยชน์) ครับ] ขอเชิญคลิกอ่านข้อความเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ
สายกลางคือ สติปัฏฐาน
เรื่องของพรหมจรรย์
อยู่พรหมจรรย์ เป็นอย่างไร?
บุคคลเหล่านั้นอยู่ที่ไหน
รู้ทุกข์
ทางอื่น ไม่มี [คาถาธรรมบท]
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ
เราทั้งหลาย อยู่ประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาคเจ้า เพื่อสำรอกราคะ. คำว่าสำรอกหมายถึงอะไร มีลักษณะอย่างไร ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เรียน ความคิดเห็นที่ ๔
(ขอแสดงความคิดเห็นดังนี้ ครับ) คำว่า สำรอกราคะ ในวิราคสูตร มาจากคำว่า วิราคะ แปลว่า การละคลายราคะหรือ ดับราคะ (คือโลภะ) โดยไม่เหลือ ซึ่งก็คือ การปราศจากราคะ นั่นเอง จะเห็นได้ว่าต้องอาศัยการอบรมเจริญปัญญา เท่านั้น ถึงจะไปถึงการดับราคะหรือสำรอกราคะได้การละคลายกิเลสก็ต้องเป็นไปตามลำดับขั้น ผู้ที่จะดับราคะซึ่งเป็นสภาพธรรมที่ติดข้องยินดีพอใจได้อย่างเด็ดขาด นั้น คือ พระอรหันต์ และ อีกประการหนึ่ง วิราคะ ก็เป็นชื่อหนึ่งของพระนิพพาน ซึ่งมีความสงบเป็นลักษณะ ขณะที่รู้แจ้งอริยสัจจธรรมถึงความเป็นพระอริยบุคคลประจักษ์แจ้งพระนิพพาน ขณะนั้นสงบจากกิเลส สงบจากอกุศล ตามลำดับมรรค ครับ
ขอเชิญคลิกอ่านข้อความเพิ่มเติมได้ที่นี่้ ครับ
การละคลายกิเลส ต้องเป็นลำดับขั้น
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของคุณ intira2501 และทุกๆ ท่านครับ...
ขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณและอนุโมทนาค่ะ
เรียนท่าน อ. คำปั่น ครับ
ขณะไหนที่เรียกว่า "อบรมเจริญปัญญา" ครับ
ขอบพระคุณครับ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เรียน ความคิดเห็นที่ ๘ (ขอแสดงความคิดเห็นดังนี้ ครับ) ปัญญา เป็นสภาพธรรมที่เข้าใจถูก เห็นถูก มีความเข้าใจถูกขณะใด ขณะนั้นก็เป็นกุศลประเภทหนึ่ง การอบรมเจริญปัญญา เริ่มจากการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม สะสมความเข้าใจไปตามลำดับ ขณะที่ฟังพระธรรมแล้วเข้าใจ ขณะนั้นก็ชื่อว่าอบรมเจริญปัญญา ครับ ...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของคุณ Siriphong และทุกๆ ท่านครับ...
ขอบพระคุณและอนุโมทนา อ. คำปั่น ค่ะ คงต้องอ่านและฟังธรรมเพิ่มขึ้นอีกค่ะ