ผมมีคำถามสำหรับตัวเองอยู่ตลอดมา ถึงการมีศรัทธา ในพุทธศาสนา ซึ่งได้ศึกษาและอ่าน และปฏิบัติบ้าง พอสมควร แต่ยังไม่สามารถ ทำความศรัทธาให้มั่นคงได้ มีบางโอกาส ที่สงสัยในพระพุทธเจ้า ซึ่งตัวตนไม่อยากให้มีความคิดนี้ปรากฎอยู่ แต่มันเป็นความจริงที่เกิดขึ้น จึงอยากเรียนถามทุกท่านที่พอกรุณา เผื่อจะมีแนวทางให้เกิดศรัทธาที่มั่นคง ขอกราบขอบพระคุณ มาล่วงหน้า
ผู้ที่มีศรัทธามั่นคง ในพระพุทธศาสนา คือ ผู้ที่มีปัญญาระดับ พระอริยบุคคลตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไป สำหรับปุถุชนทั้งหลาย ชื่อว่าเป็นผู้ที่ยังไม่มีศรัทธามั่นคงจริงๆ แต่บางท่านที่มีการศึกษาพระธรรมอย่างละเอียด ทั้งพระไตรปิฎก และอรรถกถาจนเข้าใจ และปัญญาเริ่มที่จะรู้ตามจริงที่ทรงแสดง ย่อมคลายความสงสัย ที่เคยมีมาแต่ก่อน และมีศรัทธามั่นคงยิ่งขึ้น ฉะนั้น แนวทางให้เกิดศรัทธามั่นคงยิ่งขึ้นก็คือ การศึกษาพระธรรมคำสอนให้มากยิ่งขึ้น และอบรมเจริญสติปัฏฐาน อบรมปัญญา
อนุโมทนา.
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
ตราบใดที่ยังเป็นปุถุชน ก็ยังไม่มั่นคง ดังนั้น เราต้องเข้าใจคำว่าศรัทธา ไม่ใช่แค่ความเชื่อเท่านั้น แต่เป็นสภาพธรรมที่เป็นฝ่ายดี ขณะที่กุศลเกิด ขณะนั้นมีศรัทธา ถ้าเราเชื่อในหนทางผิด ซึ่งก็ไม่รู้ว่าผิด ใช่ศรัทธาหรือเปล่า ไม่ใช่ครับ เพราะเป็นความเห็นผิด ศรัทธา จะไม่เกิดกับอกุศลเลย ศรัทธา ก็ต้องมีวัตถุที่ตั้ง ให้ศรัทธา คือ ศรัทธาในพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ คงไม่ใช่กล่าวเป็นคำพูดว่า มีศรัทธา แต่ศรัทธาจะเกิดมากขึ้นได้ ก็เพราะปัญญาเจริญขึ้นนั่นเอง อันเนื่องมาจากการฟังพระธรรม และเข้าใจหนทางที่ถูก เพราะไม่เช่นนั้น เราก็สำคัญความเชื่อ ที่เชื่อในหนทางผิดว่า เป็นศรัทธาได้ครับ ดังนั้น เหตุให้เกิดศรัทธา ก็ต้องเกิดจากการฟังพระธรรม การคบสัตบุรุษ เป็นต้นครับ ดังข้อความในพระไตรปิฎก
เรื่อง เหตุให้เกิดศรัทธา
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ทสก-เอกาทสกนิบาต เล่ม ๕ - หน้าที่ 203
แม้ศรัทธาก็กล่าวว่ามีอาหาร (นำมาซึ่งผล) มิได้กล่าวว่าไม่มีอาหาร ก็อะไรเป็นอาหารของศรัทธา ควรกล่าวว่า การฟังสัทธรรม แม้การฟังสัทธรรม เราก็กล่าวว่ามีอาหาร มิได้กล่าวว่าไม่มีอาหาร ก็อะไรเป็นอาหารของการฟังสัทธรรม ควรกล่าวว่า การคบหาสัปบุรุษ
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ด้วยประการดังนี้ การคบสัปบุรุษที่บริบูรณ์ ย่อมยังการฟังสัทธรรมให้บริบูรณ์ การฟังสัทธรรมที่บริบูรณ์ ย่อมยังศรัทธาให้บริบรูณ์
ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
การฟังพระธรรม จะช่วยแก้ปัญหาชีวิตได้ค่ะ อนุโมทนาค่ะทุกท่าน
การฟังพระธรรมให้เข้าใจจริงๆ ฟังบ่อยๆ เนืองๆ พิจารณาไตร่ตรองตามด้วยเหตุผล เพื่อให้เกิดปัญญาของเราเองจริงๆ ถึงแม้เพียงขั้นฟัง (สุตมยปัญญา) ก็จะเป็นเหตุปัจจัยให้ศรัทธาค่อยๆ มั่นคง ยิ่งๆ ขึ้น ตามกำลังของปัญญา และอย่าลืมว่าทุกอย่างเป็นธรรมะและเป็นอนัตตาจริงๆ จนกว่าจะจรดเยื่อในกระดูก
แนวทาง ที่จะทำให้เกิดศรัทธาที่ค่อยๆ มั่นคงขึ้น คือ ฟังพระธรรม เพื่ออบรมเจริญปัญญา ให้เห็นโทษของอกุศล เห็นประโยชน์ของการเจริญกุศล เจริญสติปัฏฐานเนืองๆ และบำเพ็ญบารมีทั้ง ๑๐ ประการ ครับ
ขออนุโมทนา
ขออนุโมทนากับความคิดเห็นของทุกท่านค่ะ
ฟังธรรมบ่อยๆ เท่าที่มีปัจจัยให้ฟัง และเจริญกุศลเท่าที่มีปัจจัยให้เจริญทุกประการ
โอกาสเจริญกุศล ย่อมเสียไปเพราะอกุศล คือ ไม่รู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง
ยินดีในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ