ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
สนทนาธรรมที่แก่งกระจาน 12-12-50
ท่านอ.สุจินต์ ถ้าไม่มีเห็น จะมีเราไหมคะ ถ้าไม่มีได้ยิน จะมีเราไหม ถ้าไม่มีคิดนึก จะมีเราไหม ถ้าไม่มีสภาพธัมมะจะมีคน มีสัตว์บุคคล มีเราหรือเปล่า แต่เพราะมีสภาพธัมมะจึงยึดถือว่า เป็นเรา เป็นสัตว์บุคคล มีเห็น จึงยึดว่าเป็นเราที่เห็น มีได้ยิน ก็ยึดถือว่าเป็นเราที่ได้ยิน มีสิ่งที่ปรากฏทางตา ก็ยึดถือว่ามีเรา มีสัตว์ บุคคล ตัวตน เพราะฉะนั้น ถ้าไม่มีสภาพธัมมะก็ไม่มีเราเลย แต่เพราะมีสภาพธัมมะจึงเห็นผิดยึดถือว่ามีเรา มีสัตว์ บุคคล แท้ที่จริงก็มีแต่เพียงสภาพธัมมะที่เกิดขึ้นและดับไปเท่านั้น
ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
เพราะมีสภาพรู้ (จิต และเจตสิก) จึงรู้สิ่งที่เพียงปรากฎ แต่หลงยึดว่าเป็น สัตว์ บุคคลตัวตน เป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด และเป็นเรา มานาน หนา เหนียว แน่น มากๆ
ถ้าปัญญาเกิดจะไม่ยึดถือสภาพธรรมะว่าเป็นเราค่ะ
ที่สำคัญต้องเป็นปัญญา คือสัมมาทิฏฐิ ในโลกิยมรรคและในโลกุตตรมรรคเท่านั้นนะครับ เพราะปัญญาในขั้นสมถภาวนาไม่อาจจะคลายหรือดับสักกายทิฏฐิได้เลยครับ ขออนุโมทนาครับ
ตราบใดยังไม่รู้ไม่เข้าใจว่าสภาพธรรมมีความเกิดดับเป็นธรรมดาและตลอดเวลา ตราบนั้นจะยังเข้าใจว่าทุกอย่างเป็นตัวตน จึงยังต้องสะสมความรู้ความเข้าใจอยู่ เพราะขณะนี้ สำหรับดิฉัน ตัวเราก็ยังคงเป็นเราอยู่อย่างเหนียวแน่นมาก ขออนุโมทนาค่ะ
มาแล้วอย่างเงียบๆ และไปแล้ว โดยไม่รู้ว่าเป็นเรา การสนทนาธรรมบ่อยๆ จะทําให้เข้าใจสภาพธรรมที่ละเอียดยิ่งขึ้น ขออนุโมทนา ผู้ชี้แนะที่ทําให้เข้าใจธรรมะมากขึ้น จากการสนทนาที่บ้านธัมมะค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ