ทำให้รู้สภาพธรรมที่ปรากฎก็เพียงสี่เหลี่ยม มีแสง สี เสียง แต่ถ้าไม่เข้าใจก็คิดว่าเป็นเรื่องราวต่างๆ เมื่อดูกีฬาเมื่อทีมโปรดพ่ายแพ้ก็มีอารมณ์ห่อเหี่ยวก็รู้สภาพธรรมที่ปรากฎนั้น ฉะนั้นสิ่งที่ท่านอาจารย์คอยพร่ำสอนจากที่พระอรหันตสัมสัมพุทธเจ้าที่ทรงตรัสรู้ ก็คือสภาพธรรมต่างๆ ที่ปรากฎนี้นี่เอง
ไม่ใช่เพียงหนังละครหรือโทรทัศน์เท่านั้น แม้ชีวิตจริงๆ ทุกขณะ ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย และทางใจ ก็คือสภาพธรรมอย่างหนึ่งเท่านั้นจริงๆ
ขออนุโมทนา
ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นธรรมะ แต่เราชินกับความไม่รู้ เพราะอวิชชาปิดบังไม่ให้รู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง เราจึงต้องอบรมด้วยการฟังธรรมบ่อยๆ การฟังธรรมก็จัดอยู่ในขั้นภาวนา คืออบรมปัญญาค่อยๆ เจริญขึ้นค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
เรื่อง จอเล็ก จอใหญ่ ไม่ต่างกันเลย ในจอโทรทัศน์ เราสำคัญว่ามีใครจริงๆ ขณะที่ดู มีคนนั้นคนนี้ เพราะอะไร เพราะคิดนึกในสิ่งที่เห็น จริงๆ แล้วมีใครจริงๆ ในจอโทรทัศน์หรือเปล่า ลองไปจับที่จอ ก็แข็งและสิ่งที่เห็นในจอก็เป็นสีต่างๆ แต่เมื่อเห็นแล้วก็คิดนึกอย่างรวดเร็ว (จิตเกิดดับเร็วมาก) ทำให้เห็นเป็นคน เป็นสัตว์ เป็นเรื่องราวต่างๆ ทั้งๆ ที่ไม่มี สัตว์ บุคคลในจอโทรทัศน์จริงๆ เลย และลองมาเปลี่ยนเป็นจอใหญ่บ้าง อะไรเป็นจอใหญ่ ก็ขณะที่เห็นขณะนี้เอง เป็นจอที่ใหญ่กว่าจอโทรทัศน์ ซึ่งก็ไม่ต่างกันเลย เพราะจริงๆ ก็เห็นเพียงสีต่างๆ
แต่ด้วยความสืบต่อของจิตและการเกิดดับของจิตที่เร็วมาก (เห็นแล้วคิดนึกในสิ่งที่เห็น) ก็ทำให้เห็นเป็นคนนั้น คนนี้ เป็นสิ่งๆ ต่างๆ แท้ที่จริงก็เป็นเพียง สีเท่านั้นที่เห็น ดังนั้นการอบรมปัญญาเพื่อดับกิเลส ต้องไถ่ถอนความเห็นผิดว่ามีสัตว์ บุคคล จริงๆ มีแต่ธรรม ด้วยการอบรมสติปัฏฐาน ระลึกสภาพธัมมะที่มีจริงในขณะนี้ โดยเริ่มต้นจากการฟังให้เข้าใจก่อนว่า ธรรมคืออะไร
ขออนุโมทนา ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
ขออนุโมทนาครับ
คุณแล้วเจอกันเปรียบได้ชัดจังครับ
อนุโมทนาครับ
เดี๋ยวนี้มีจอแบน ... ทันสมัย สบายตา แต่ปัญญาไม่เพิ่ม
ปัญญาจะค่อยๆ เจริญขึ้น เพราะอาศัยการฟังธรรมให้เข้าใจว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นธรรมะ
ยินดีในกุศลจิตค่ะ