สมบัติอยู่ไหน
โดย nattawan  5 พ.ย. 2566
หัวข้อหมายเลข 46916

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ทุกคนเกิดมาแล้วต้องตาย ในทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยยึดถือว่าเป็นของๆ เรา ... เป็นของชั่วคราว เมื่อถึงเวลาก็ต้องพรากจากไป

ยิ่งถ้าเข้าใจความเป็นธรรมะแล้วก็จะรู้ว่า กำลังพลัดพรากจากสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏไปทุกๆ ขณะ ไม่มีอะไรเป็นสมบัติที่แท้จริงเลย แล้วสมบัติอยู่ไหน ... เชิญคลิกชมหาคำตอบได้ค่ะ ...

รายการบ้านธัมมะ 15 มกราคม 2565 เรื่อง สมบัติอยู่ไหน

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในความดีของทุกท่านค่ะ



ความคิดเห็น 1    โดย nattawan  วันที่ 5 พ.ย. 2566

พุทธศาสนา ... ศาสนา คือ คำสอน แค่คำว่า "ศาสนา" หมายถึง คำสอนของใครก็ได้ที่รู้อย่างไรก็พูดอย่างนั้น เพราะฉะนั้นจึงมีหลายศาสนามาก ตามความคิดของแต่ละคนว่าเขาจะเชื่อในคำของใคร ก็นับถือศาสนาคำสอนของคนนั้น

พุทธะหรือพุทธศาสนาอีกชื่อหนึ่ง ต่างจากศาสนาอื่นๆ พุทธะ คือ ผู้รู้ความจริงถึงที่สุด เป็นศาสนาที่สามารถจะทำให้คนที่จะรู้ความจริงศึกษาจนกระทั่งเป็นความเข้าใจถูกของตนเองว่า ความจริงถึงที่สุดนั้นคืออะไร

ศาสนาอื่นเป็นเรื่องความเชื่อ เรื่องการให้ประพฤติปฏิบัติตามคำสอนของศาสนานั้นๆ แต่พุทธะฃศาสนาไม่ใช่ให้เชื่อ แต่ให้คิดไตร่ตรองจนกระทั่งรู้ว่า คำที่ได้ฟังเป็นความจริงหรือเปล่า เพราะฉะนั้นเราจะรู้ได้เลยว่า ถ้าเราไม่ฟังคำสอนของพระพุทธศาสนา เราคิดว่าเรารู้ เราคิดว่าเรารู้จริงด้วย แต่พอถึงพุทธศาสนาแต่ละคำแสดงให้เห็นความต่าง ผู้ที่ได้ตรัสรู้ความจริงและสอนเรา มีคำซึ่งยาก ลึกซึ้ง ต้องไตร่ตรอง สอนให้คนทำดีแต่ทำไมคนทำไม่ดี ... ทุกวงการด้วย ... เพราะอะไร ... ทุกวงการก็พูดว่าพุทธศาสนาทั้งนั้น พอถึงเวลาจริงๆ แล้วทำไม่ดีกันทุกวงการเพราะอะไร? แล้วจะบอกว่าพุทธศาสนาสอนให้ทำดีได้หรือ?

แต่ทุกคนอยากดีใช่ไหม? ทุกคนอยากเป็นคนดี แต่อดไม่ดีไม่ได้ ต้องมีเหตุให้เป็นอย่างนั้น ทำไมทุกคนก็รู้ว่าความดีนี่ควรทำ การช่วยเหลือคนอื่น การหวังดีต่อคนอื่น ต่อเพื่อนฝูงมิตรสหาย สังคม แต่ทำไมทำดีไม่ได้ ... เพราะอะไร? เพราะยังมีกิเลส ... กิเลสมีจริงๆ ไหม ... มีจริง ... คนไม่รู้จะถามว่ากิเลสคืออะไร?

บังคับไม่ให้อยากได้ไหม? เข้าใจว่าบางครั้งบังคับได้ บางครั้งบังคับไม่ได้ แต่ความจริงขณะที่บังคับไม่ได้เพราะอะไร และขณะที่บังคับได้เพราะอะไร

ต้องมีเหตุผล พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาของเหตุผล ทุกอย่างชัดเจน ละเอียดมาก ถ้าพูดถึงกิเลส ต้องบอกว่า กิเลสคืออะไร มีกี่อย่าง เดี๋ยวนี้มีไหม? ... มีบ้าง ... แสดงว่ารู้จักกิเลส เพราะฉะนั้นบ้างที่มีนั้นคืออะไร?

นี่คือพุทธศาสนาจริงๆ จะให้ความจริงจนกระทั่งคนนั้นสามารถที่จะเข้าใจได้มั่นคงว่า นี่คือคำสอนของผู้ที่ทรงตรัสรู้ถึงที่สุด

เดี๋ยวนี้มีกิเลสบ้าง ... กิเลสบ้างคืออะไร? ... ความอยากทานอาหาร ... ขณะนี้มีความอยากทานอาหาร ... ขณะที่เห็น ขณะที่ได้ยิน ... เห็นน่ะอยากทานอาหารหรือเปล่า? กำลังเห็น ตัวเห็นที่เห็นน่ะอยากทานอาหารหรือเปล่า หรือเห็นเป็นเห็น และอยากเป็นอยาก?

พระองค์ทรงตรัสรู้ชัดสิ่งที่มีจริงทุกอย่างโดยละเอียดยิ่งโดยประการทั้งปวง เห็นมีจริงบังคับไม่ให้เห็นไม่ได้ หิวมีจริงบังคับไม่ให้หิวไม่ได้ อยากมีจริงบังคับไม่ให้อยากไม่ได้ เพราะเกิดแล้ว ไม่มีใครสามารถที่จะบังคับบัญชาสิ่งใดๆ ก็ตามที่เกิดแล้ว ... เพราะเกิดแล้ว จะไม่ให้เกิดได้อย่างไร?

ขอให้ทุกคนตั้งต้นที่จะเข้าใจแต่ละคำให้มั่นคง สิ่งที่มีจริงพระองค์ตรัสในภาษาบาลีว่า "สิ่งที่มีจริงเป็นธรรมะ" พระองค์ทรงตรัสรู้ความจริงของสิ่งที่มีจริง ถ้าสิ่งนั้นไม่มีจะทรงตรัสรู้ได้อย่างไร?

คำของพระองค์ต่างจากคำของคนอื่น คำของคนอื่นเราสามารถเข้าใจได้ แต่คำของพระองค์เกิดจากการตรัสรู้ที่คนอื่นรู้ไม่ได้แน่นอน ถ้าไม่ทรงตรัสรู้และไม่ทรงแสดงความจริงของสิ่งนั้น ซึ่งทรงตรัสรู้โดยทรงบำเพ็ญพระบารมี ... อยู่ดีๆ รู้ไม่ได้!!!

พระพุทธศาสนาสอนให้รู้ว่า สิ่งที่มีจริงมีแน่นอน ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครเลยทั้งสิ้น สิ่งนั้นต้องเกิดเมื่อมีเหตุปัจจัย อาศัยกันและกัน ปรุงแต่งกันและกันเกิดขึ้นเป็นอย่างนั้น ... เป็นอย่างอื่นไม่ได้!!!


ความคิดเห็น 2    โดย nattawan  วันที่ 5 พ.ย. 2566

ปัญญาเป็นทรัพย์ที่ประเสริฐ ถึงแม้ว่าปัญญาจะเกิดขึ้นและดับไป แต่ก็สะสมสืบต่อในจิตทุกๆ ขณะ อำนวยประโยชน์ใหญ่มาให้ คือการรู้ความจริงในสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏขณะนี้นั่นเอง

ถ้ารู้ว่าสมบัติภายนอกเป็นของชั่วคราว แต่สมบัติภายในถือเป็นสิ่งที่ประเสริฐ ก็คือปัญญาและคุณความดี ก็จะเป็นผู้ไม่ประมาทในการฟังพระธรรม และเจริญกุศลทุกประการนั่นเอง


ความคิดเห็น 3    โดย nattawan  วันที่ 5 พ.ย. 2566

... ธรรมทั้งปวง เป็นอนัตตา ...


ความคิดเห็น 4    โดย nattawan  วันที่ 5 พ.ย. 2566

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย


ความคิดเห็น 5    โดย nattawan  วันที่ 5 พ.ย. 2566

แนะนำหนังสือ ...

ธรรม ๒ นาที เล่ม ๓


ความคิดเห็น 6    โดย chatchai.k  วันที่ 5 พ.ย. 2566

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตครับ


ความคิดเห็น 7    โดย เฉลิมพร  วันที่ 5 พ.ย. 2566

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 8    โดย ทรงศักดิ์  วันที่ 7 พ.ย. 2566

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 9    โดย nattawan  วันที่ 14 ส.ค. 2567

ยินดีในกุศลจิตค่ะ