ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สิ่งที่มีจริงทั้งหมดเป็นธรรม เป็นปรมัตถธรรม เป็นจิต เจตสิก รูป และนิพพาน ความจริงของชีวิตก็ไม่พ้นไปจาก จิต เจตสิก และรูป ชีวิตในวันหนึ่งๆ ก็มีเห็น มีได้ยิน .. และคิดนึก เกิดดับสืบต่อตั้งแต่เกิดจนตาย ล้วนเป็นเพียงธรรม ไม่ใช่เรา เกิดมาเพื่อเห็น ได้ยิน (รับผลของกรรม) และหลังเห็น ได้ยิน จิตเกิดดับสืบต่อสามขณะ อกุศลเกิดแล้ว วันหนึ่งๆ สะสมความไม่รู้ ความติดข้องและกิเลสอื่นๆ มากมาย กิเลสวัฏฏ์เป็นเหตุให้เกิดกัมมวัฏฏ์กระทำกุศลกรรม และอกุศลกรรมซึ่งเป็นเหตุให้เกิดผลคือเกิดอีกขณะปฏิสนธิกาล และเห็นอีก ได้ยินอีกในปวัตติกาล เป็นวิปากวัฏฏ์วนเวียนอยู่ในสังสารวัฏฏ์ไม่สิ้นสุดตราบใดที่ยังไม่รู้ความจริงของสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏว่าเป็นเพียงธรรม เกิดขึ้นเพราะมีปัจจัยให้เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป เห็นเกิดขึ้นเห็นมีปัจจัยมากมายให้จิตเห็นขณะนี้เกิดขึ้น ไม่มีใครทำเห็นให้เกิดขึ้นได้เลย เห็นเป็นเห็น เป็นจิตชาติวิปาก เกิดแล้วดับไป ไม่กลับมาอีกเลย จึงเป็นของสูญ ว่างเปล่าจากตัวตน สัตว์ บุคคล ผู้มีปัญญาย่อมเห็นสังขารทั้งหลาย เป็นของสูญ ว่างเปล่า เป็นอนัตตา เป็นสุญญตา (สุญญตา กับอนัตตา มีอรรถเหมือนกัน) เพราะฉะนั้น สิ่งที่มีจริงทั้งหลายเกิดขึ้นเพราะยังมีปัจจัยปรุงแต่งให้เกิดขึ้น เราไม่สามารถทำให้ธรรมใดๆ เกิดได้เลย ไม่มีเราที่จะให้สติเกิดได้ ไม่มีเราที่จะปฏิบัติธรรม แต่สติเกิดเพราะมีปัจจัยพอ คือการได้ฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ใช่ฟังคำ ของคนอื่น หรือคิดธรรมเอง ต้องฟังคำจริงของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงความจริงของสิ่งที่กำลังปรากฏขณะนี้ เห็น ได้ยิน คิด โกรธ ติดข้อง ตระหนี่ ... เกิดขึ้นแล้วดับไป เป็นของสูญ ว่างเปล่าจากตัวตน ทุกอย่างที่มีจริงขณะนี้เป็นสิ่งที่ควรรู้ยิ่ง
ขอเชิญคลิกอ่านเพิ่มเติมได้ที่...
ความหมายของสุญญตา [ธรรมสังคณีปกรณ์]
ความหมายของอนัตตา [วิภังค์]
นิพพานปรมัตถ์ ว่าโดยความแตกต่างแห่งอาการ
..กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพอย่างยิ่งค่ะ..
.....อนุโมทนาสาธุค่ะ .....
กราบแทบเท้าบูชาพระคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ เหนือเกล้า
กราบอนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านยิ่ง
ขออนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เห็นเกิดขึ้นเห็นมีปัจจัยมากมายให้จิตเห็นขณะนี้เกิดขึ้น ไม่มีใครทำเห็นให้เกิดขึ้นได้เลย เห็นเป็นเห็น เป็นจิตชาติวิปาก เกิดแล้วดับไป ไม่กลับมาอีกเลย จึงเป็นของสูญ ว่างเปล่าจากตัวตน สัตว์ บุคคล ผู้มีปัญญาย่อมเห็น สังขารทั้งหลาย เป็นของสูญ ว่างเปล่า เป็นอนัตตา เป็นสุญญตา (สุญญตา กับอนัตตา มีอรรถเหมือนกัน)