ผู้ที่ใจร้อนอยากจะให้วิปัสสนาญาณเกิดเร็วๆ นั้น ย่อมพยายามทำอย่างอื่นแทนการระลึก พิจารณา สังเกตลักษณะของนามธรรมและรูปธรรม ที่เกิดขึ้นปรากฏตามเหตุปัจจัย ตามความเป็นจริง แต่ไม่มีทางจะเร่งรัดปัญญาได้เลย เหตุที่จะอบรมปัญญาให้ค่อยๆ เจริญขึ้นได้นั้น มีหนทางเดียว คือ สติปัฏฐานตามปกติในชีวิตประจำวันเท่านั้น ถ้าทำอย่างอื่นที่ผิดไปจากนี้ ก็แน่นอนที่ผลต้องผิดไปตามเหตุที่ผิดด้วย
เพราะโลภะเป็นธรรมเครื่องเนิ่นช้า ตามความเป็นจริงแล้ว มีสภาพธรรมปรากฎให้สติระลึกได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจเมื่อสติไม่เกิด สภาพธรรมนั้นๆ ก็ผ่านไป จึงทำให้ชีวิตในวันหนึ่งๆ เต็มไปด้วยอกุศลเพราะหลงลืมสติ หรือไม่ก็เพียรพยายามไประลึกสิ่งที่ไม่ปรากฎนั่นเอง แล้วกุศลและปัญญาจะเจริญได้อย่างไรกันคะ?
สาธุ..ถ้าเร่งปัญญาได้ ทุกคนคงมีปัญญามากจนดับอวิชชาเป็นพระอรหันต์กันหมดแล้วแต่ความเป็นจริงปัญญาเป็นธรรมะที่โตช้าเหลือเกิน ไม่เป็นอย่างที่ใจหวังเลย ต้องใช้เวลาอบรมเป็นกาลนานจริงๆ ดังชีวประวัติของพระอริยสาวก ที่ท่านมีปัญญามาก ในชาติสุดท้าย เพราะท่านสะสมอบรมมาก่อน
สาธุ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ